นิคมสหกรณ์อ่าวลึก ปักป้ายห้ามบุกรุกถือครอง หลังเกิดข้อพิพาทชาวบ้านแยกเป็น 2 กลุ่ม เข้าจับจองที่ดินสวนปาล์มหมดสัญญาเช่า แจงกรณีขายปาล์มต้นละ 350 บาท หรือเก็บค่าคุ้มครองต้นละ 5 บาท/เดือน ไม่เกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ร้องดีเอสไอเข้าตรวจสอบแล้ว
ความคืบหน้ากรณีพิพาทที่ดินสวนปาล์มนิคมสหกรณ์อ่าวลึก วันนี้ (26 มิ.ย.67) นายเติมศักดิ์ เสียมไหม ผอ. นิคมสหกรณ์อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์อ่าวลึก เครือข่ายประชาชน ได้ร่วมกันติดป้ายข้อความระบุว่า พื้นที่ 3,100-2-44 ไร่ เป็นที่ดินในเขตความรับผิดชอบของนิคมสหกรณ์อ่าวลึก เนื่องจากที่ดินแปลงนี้ได้หมดสัญญาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ หรือสัญญาเช่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 แต่ทราบว่าขณะที่ยังไม่หมดสัญญา ได้มีบุคคลและกลุ่มบุคคล เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ ต่อมาเมื่อหมดสัญญา กลุ่มบุคคลและบุคคล ยังได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ผอ. นิคมสหกรณ์อ่าวลึก ย้ำว่าตระหนักถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร แต่ระเบียบ ข้อกฎหมาย การจัดสรรที่ดินเพื่อครองชีพ ตาม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินเพื่อครองชีพ พ.ศ. 2511 ยังบังคับใช้อยู่ และยังไม่เปิดให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคล เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ก่อนได้รับการจัดสรร ตามคุณสมบัติการจัดสรรที่ดินนิคมสหกรณ์ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องติดป้ายแสดงให้ทราบว่าพื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ในความดูแลของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เนื่องจากน่าเชื่อว่าบุคคลและกลุ่มบุคคลจะยึดถือครอบครองพื้นที่ และให้ถือว่าการติดป้ายแสดงข้อความ เป็นการบอกกล่าวให้บุคคลและกลุ่มบุคคลออกไปเสียจากที่ดินของนิคมสหกรณ์อ่าวลึก หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากข้อมูลการข่าว ทราบว่า มีการซื้อขายต้นปาล์มต้นละ 350 บาท หรือมีการเก็บค่าคุ้มครองต้นละ 5 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่ใช่พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์อ่าวลึก ขณะนี้ได้แจ้งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาตรวจสอบแล้ว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หมดประทานบัตร นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าชายฉกรรจ์ เข้าข่มขู่ทำร้ายชาวบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านแยกเป็น 2 กลุ่ม มีการชุมนุมประท้วงทั้งหน้าที่ว่าการอำเภอ และหน้า สภ.ปลายประยา
