ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 ราย หอบหลักฐานร้อง มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูก สามีนางเอกช่องดัง ดีกรีระดับด็อกเตอร์ ชวนลงทุนเทรดทองก่อนสูญเงินเกือบ 20 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้เดินหน้ายื่นเรื่องต่อ ผบ.ตร.เร่งรัดคดี
นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมตัวแทนผู้เสียหาย ที่ถูกอาจารย์หนุ่มดีกรีปริญญาเอก สอนเทรดทอง และเป็นสามีของนางเอกช่องดัง ชวนลงทุนเทรดทอง บอกว่าจะได้กำไรมากกว่าร้อยละ 30 ของเงินที่ลงทุนไป แต่พอจะถอนเงิน กลับถอนไม่ได้ สูญเงินรวมกันเกือบ 20 ล้านบาท โดยวันนี้มีการยื่นหนังสือร้องเรียน ถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อขอให้สั่งโอนคดีและรวมคดี หลอกเทรดทองคำ เนื่องจากคดีไม่มีเจ้าภาพทำคดีอาญา และคนที่โฆษณาชักชวนเป็นคนดังมีชื่อเสียง สนิทสนมนักการเมือง ตำรวจได้รับฉายาว่า CEO หมื่นล้าน
หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีความสนใจเรื่องการเทรดหุ้นและทองคำ กระทั่งไปเจอโฆษณาเฟซบุ๊กของบุคคลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง คร่ำหวอดในวงการเทรด Forex เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ มีตัวตนจริง มีชื่อเสียง เคยออกรายการต่าง ๆ จนถูกเรียกว่า "อาจารย์"
และบุคคลนี้เคยไลฟ์สดโชว์พอร์ตการเทรดทองคำ ที่อ้างว่าลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ปัจจุบันพอร์ตมีมูลค่าอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงสนใจเข้าร่วมเทรดกับแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยมียอดลงทุนเริ่มต้นที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100,000 บาท และให้ทำภารกิจเทรดเพิ่มยอดให้ได้ตามกำหนด
แต่เมื่อต้องการถอนเงินออกจากพอร์ต กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถถอนเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐตามมูลค่าที่ปรากฎในพอร์ตได้ แต่ถูกบังคับให้ถอนเป็นสกุลเงินดิจิทัลของ "อาจารย์" ท่านนี้
ซึ่งมีมูลค่าน้อยกว่าราคาตลาดมากกว่า 80-90% ทำให้แม้แต่ต้นทุนที่ลงทุนไปตอนแรก ก็ได้กลับมาไม่ครบ ได้รับความเสียหายอย่างมาก จนหลัง ๆ ผู้เสียหายก็ไม่สามารถถอนเงินได้แล้ว
โดยทางแอดมินบอกว่า ต้องรอดำเนินการ เพราะมีการทำธุรกรรมเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ผ่านมาแล้ว 2-3 เดือนก็ยังไม่สามารถถอนเงินได้ เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความออนไลน์ ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงได้รวมตัวกันไปร้องตำรวจไซเบอร์ แต่กลับได้รับแจ้งว่าหากต้องการให้รวบคดี ต้องรวมผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจสั่งรวมคดี จึงเป็นที่มาของการมาร้องทุกข์ในวันนี้
เบื้องต้นผู้แทนตำรวจฝ่ายอำนวยการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องไว้ และจะเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
