ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีสาวใหญ่คนหนึ่ง ถือถุงน้ำมันเบนซินไปเทใส่พื้น หน้าประตูทางเข้าของธนาคาร ธกส. จากนั้นได้จุดไฟ ทำให้ไฟลุกโชน โชคดีไม่มีเชื้อวัตถุไวไฟอยู่บริเวณนั้น ไม่งั้นอาจเกิดโศกนาฏกรรมได้ เพราะขณะเกิดเหตุมีผู้คนที่ใช้บริการอยู่ด้านในธนาคารด้วย คนที่อยู่ภายธนาคารต่างพากันวิ่งหนีกันกระจัดกระจาย ก่อนเจ้าที่รักษาความปลอดภัยจะนำถังดับเพลิงมาฉีดควบคุมเพลิงไว้ได้
เป็นภาพที่น่าสนใจมาก โชคดีบริเวณนั้นไม่มีไม้ หรือ วัตถุไวไฟอยู่ ไม่งั้นอาจเกิดโศกนาฏกรรมได้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวานนี้ ผู้ที่ก่อเหตุคือ นางสาวอมรสุข นาคแก้ว อายุ 48 ปี มีอาการป่วยจิตเวช ได้พกถุงน้ำมันเบนซินไปเทราดแล้วจุดไฟเผาบริเวณประตูทางเข้าธนาคาร ธกส. สาขาขันดี อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช จนไฟไหม้ลุกพรึบไหม้บริเวณหน้าประตุทางเข้าธนาคาร ทำให้ผู้ที่มาใช้บริการที่ธนาคารพากันแตกตื่น หลังเพลิงไหม้อยู่ 5 นาที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดไฟเอาไว้ได้ หลังเพลิงสงบพบกระจกประตูทางเข้าเสียหายไป 4 บาน และกล้องวงจรปิดเสียหาย 1 ตัว รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนบาท
หลังก่อเหตุ นางสาวอมรสุข ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง หลบหนีข้ามอำเภอไปทันที เข้าไปกบดานหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของตัวเอง ที่ตำบลทุ่งสง อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วปิดประตูเงียบ
ต่อมา ช่วงเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉวาง ได้ตามแกะรอยตามไปจนถึงบ้านพัก และได้เจรจาขอให้ออกมามอบตัว แต่ นางสาวอมรสุข ไม่ยอมเปิดประตูให้ ได้แต่ส่งเสียงเอะอะโวยออกมาอยู่ตลอดเวลา โดยขู่ว่าหากเจ้าหน้าที่เข้ามาจะเผาบ้านทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องล่าถอยออกมาตั้งหลักก่อน เพื่อวางแผนในการเข้าจับกุมใหม่อีกครั้ง
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาเกลี่ยมกล่อมให้ นางสาวอมรสุข มอบตัวอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงตรึงกำลังอยู่รอบบริเวณบ้านก่อเหตุทั้งคืนยันเช้า
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ฉวาง พร้อมด้วย นายสมคิด เจ้ยทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลทุ่งสง อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช และฝ่ายปกครองในพื้นที่พร้อมด้วย นางอาลัย สติตรง อายุ 79 ปี แม่ของ นางสาวอมรสุข ได้เข้าเจรจา ให้ นางสาวอมรสุข ออกมามอบตัวแต่โดยดีอีกครั้ง แต่ นางสาวอมรสุข ก็ยังคงปิดบ้านเงียบ ไม่ยอมออกมามามอบตัว
ด้าน นายสมคิด เจ้ยทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลทุ่งสง เผยว่า ตามประวัติของ นางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ทราบว่าลูกบ้านคนนี้ได้ป่วยเป็นจิตเวชมานานแล้ว ญาติพยายามรักษาแต่ไม่หายขาด มีการคลุ้มคลั่งอาละวาดกับคนในบ้านบ่อยครั้ง เมื่อก่อนเคยอาศัยอยู่กับแม่ แต่แม่ทนไม่ไหว ต้องหนีไปอาศัยอยู่บ้านญาติ ทำให้ นางสาวอมรสุข อาศัยบ้านดังกล่าวเพียงคนเดียว โดยที่ผ่านมาเคยเอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับบริษัทเอกชน แห่งหนึ่ง แต่ไม่มีเงินไถ่ถอน จนญาติต้องไถ่ถอนกลับมาคืนให้หลายรอบแล้ว จนเป็นที่เอือมระอาของญาติ ๆ แต่ทางญาติ ๆ และชาวบ้านในพื้นที่ก็เห็นใจ พยามหาทางนำตัว นางสาวอมรสุข ไปรักษาหลายครั้ง แต่ก็ไม่หายสักที จนมาก่อเหตุจุดไฟเผาธนาคาร ธกส. เมื่อวานนี้ ตนและญาติก็ไม่ทราบ นางสาวอมรสุข ทำไปเพราะอะไร รู้ตัวหรือไม่ หรือ อาจจะโกรธแค้นอะไรบ้าง แต่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุป่วยจิตแน่นอน
จนกระทั่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ชาญยุทธ เรืองดิษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.ฉวาง ได้วางแผนบุกเข้าจับกุมตัว นางสาวอมรสุข โดยให้เจ้าหน้าที่งัดประตูบ้านเข้าไปด้านในก่อน จากนั้นได้ปีนดูภายในห้องชั้นล่าง พบ นางสาวอมรสุข ยืนถือมีดยาวอยู่มุมห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้งัดห้องเข้าไป และใช้เหล็กง่ามขู่ให้ นางสาวอมรสุข วางมีดลง ก่อนจะชาร์จตัว เข้าควบคุมตัวไว้ได้ และพาไปดำเนินคดีต่อที่ สภ.ฉวาง เบื้องต้น นางสาวอมรสุข ยังไม่ยอมพูดจาใด ๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งต่อจากนี้ทางตำรวจจะได้สอบสวนปากคำว่า นางสาวอมรสุข ป่วยจิต จริงหรือไม่ จากการตรวจสอบภายในบ้านพบซองยารักษาอาการป่วยจิตเวชของ นางสาวอมรสุข จำนวนมาก จึงเก็บเป็นหลักฐานต่อไป
