เดือด! บิ๊กโจ๊ก ฟ้องนายกฯ สัปดาห์หน้า

View icon 53
วันที่ 27 มิ.ย. 2567 | 16.28 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สีกากีร้าวไม่จบ! "บิ๊กโจ๊ก" เตรียมเดินหน้าฟ้องร้อง นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ช่วงสัปดาห์หน้า

เดือด! บิ๊กโจ๊ก ฟ้องนายกฯ สัปดาห์หน้า
หลังจากเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีมติ 12 ต่อ 0 ชี้ว่าคำสั่งของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขณะเป็นรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมายนั้น

ซึ่งทาง บิ๊กโจ๊ก เอง เมื่อวานนี้ได้มาออกรายการ ถกไม่เถียง พร้อมให้สัมภาษณ์อย่างดุเดือด เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้ง ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉะนั้นต้องตอบโต้ด้วยกฎหมาย และมาวันนี้ บิ๊กโจ๊ก สัมภาษณ์เปิดใจอีกครั้งว่า ผลประชุม ก.ตร. ไม่ผิดความคาดหมาย แต่ส่วนตัวรู้วิธีการทำงานของตำรวจ โดยเลขานุการ ก.ตร. ไม่ได้ยืนยันว่า เป็นมติ 12 ต่อ 0 ฉะนั้นมติอาจเป็นเพียงการรับทราบเท่านั้น และให้รอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หากผลออกมาเป็นโทษกับตนเอง ก็จะร้องศาลปกครองสูงสุดตามขั้นตอน

บิ๊กโจ๊ก ยังกล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งสุดท้ายมีการส่งเรื่องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากคำสั่งไม่สมบูรณ์ แต่นายกรัฐมนตรี กลับร่วมประชุมรับรองมติใน ก.ตร. ว่าเมื่อ นายกรัฐมนตรี ไม่มีการทักท้วงในที่ประชุม ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว หากคำสั่งเห็นชอบด้วยกฎหมายจริง เหตุใดก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี จึงไม่นำความขึ้นกราบบังคมทูล ฯ

โดยสัปดาห์หน้า จะเดินเรื่องฟ้อง นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ก.ตร. ส่วนที่ นายกรัฐมนตรี บอกจะให้ความเป็นธรรม และให้รอผลคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ เป็นเพียงวาทกรรม

บิ๊กโจ๊ก เจ็บใจถูกรังแกมาทั้งชีวิต
ส่วนกรณี นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นไม่ควรฟ้อง นายกรัฐมนตรี นั้น พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ มองว่า ต้องรักษาสิทธิของตนเอง เพื่อความชอบธรรม และยืนยันไม่ได้ต้องทะเลาะกับใคร รวมกรณีที่ พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความขัดแย้ง ที่ออกมาพูดติง ขอยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา แต่ขอถามกลับว่า ทำไมถึงถูกรังแกมาทั้งชีวิต เพราะว่ามีอายุราชการเหลือหลายปี เป็นอาวุโสลำดับที่ 1 และทำงานตรงใจประชาชนหรือไม่ ถ้าอายุราชการเหลือแค่ 1 ปี ก็คงไม่เป็นปัญหา 

นายกฯ คาดอีก 30 วัน รู้ผลปม บิ๊กโจ๊ก
ขณะที่ นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า กังวลจะถูก บิ๊กโจ๊ก ฟ้องร้องหรือไม่ โดย นายกรัฐมนตรี ตอบว่า อย่างที่เคยบอกไป เราปฏิบัติยึดตามกฎหมาย ฉะนั้นไตร่ตรองดีแล้ว และจะให้ความเป็นธรรมกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามขั้นตอนต้องรอคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ สรุปผล ก่อนนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้เป็นอย่างหนึ่งที่เราให้ความเป็นธรรม พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ และประมาณ 30 วัน ก็น่าจะตัดสินได้ ถือเป็นการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยมีการพูดคุยกันระหว่าง ก.ตร. แล้วว่า เรื่องการทูลเกล้า ฯ คงพักไปก่อน จะกว่าจะมีมติที่ชัดเจน

บิ๊กต่าย มอง บิ๊กโจ๊ก ขู่ฟ้องทำได้
ด้าน พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็นรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหน้าที่ด้วยความสุจริตใจ และใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ เพราะข้อเท็จจริงในห้วงเวลานั้น บิ๊กโจ๊ก ถูกศาลออกหมายจับ และไม่ไปรับทราบข้อหาตามหมายเรียก ขอย้ำว่า ไม่ได้มีความต้องการจะขัดแข้งขัดขา บิ๊กโจ๊ก อย่างที่อีกฝ่ายตั้งข้อสังเกต ส่วนมติของ ก.ตร. ก็เป็นไปตามข้อกฎหมาย

ส่วนกรณีที่ บิ๊กโจ๊ก จะฟ้องร้องเอาผิดทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มองว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่อยากให้ทำด้วยความสุจริตใจ ไม่มีเจตนาใดแอบแฝง ขณะที่กระแสข่าว พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลาออกจากตำแหน่ง ยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้ 

เผยนายกฯ ตบไหล่ แค่ทักทายปกติ
นอกจากนี้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ ยังกล่าวถึงจังหวะที่ นายกรัฐมนตรี เดินเข้ามาตบไหล่ก่อนเข้าประชุม ก.ตร. เมื่อวานว่า เป็นการทักทายตามปกติ ไม่มีอะไร เพราะตนเองก็เพิ่งพ้นจากหน้าที่รักษาการราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยช่วง 3 เดือน ได้ทำงานร่วมกับท่าน เมื่อท่านมาปฏิบัติหน้าที่ ก็มีการทักทายตามปกติ ส่วนกระแสข่าวว่า ถูกทาบทามให้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ตนเองไม่ทราบ แต่หากมีการทาบทามจริง ก็ไม่ไป เพราะรักอาชีพตำรวจ และคงจะอยู่จนเกษียณอายุราชการ

ผู้การแต้ม เผยไม่หวั่น หากบิ๊กโจ๊ก ฟ้องหมิ่น ฯ ลั่น ฟ้องมาฟ้องกลับ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยกล่าวหาว่าผิด ส่วนคดี ป.ป.ช. ตนลาออกมา เพื่อรักษาองค์กรสู้จนชนะคดี

จากกรณี พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าอาจจะมีการฟ้องฐานหมิ่นประมาทกับอดีตตำรวจอีกหนึ่งคน ที่ชอบออกมาเป็นกูรูวิพากษ์วิจารณ์ตน เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป หลายคนคิดว่าเป็นผู้การแต้ม หรือ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือไม่

ล่าสุด (27 มิ.ย.) พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดใจกับทีมข่าว 7HD ว่า เป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจาก บิ๊กโจ๊ก คิดว่าเขาถูกกระทำ เพราะมีคนวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งผมอาจจะเป็นคนวิพากษ์วิจารณ์ก็มีความจำเป็นที่เขาจะต้องฟ้อง ฉะนั้นผมไม่หวั่นไหวฟ้องมาเถอะ และผมก็จะฟ้องเขาเหมือนกัน

แต่ทุกครั้งที่ผมออกรายการผมไม่เคยบอกเขาว่าเขากระทำความผิด ผมบอกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ทุกครั้ง จนกว่าศาลตัดสิน แต่สิ่งที่เอามาพูดเราเอาข้อกฎหมายมาพูด ผมพูดเพื่อองค์กรตำรวจเพื่อตำรวจทุกคน และที่สำคัญที่สุดถ้าเขาหยิบฉวยเอาคำพูดของผมไปเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง เพราะผมเองเป็นอนุกรรมการร่างกฎหมายฉบับนี้

ส่วนกรณีที่ บิ๊กโจ๊ก บอกว่าตนไม่มีความรู้เท่านี้ ก็ถือว่าหมิ่นประมาทแล้ว และที่กล่าวหาว่าปฏิบัติราชการไม่สำเร็จ ผมเข้าตำรวจครั้งแรกยศพลตำรวจ และไต่เต้าเรียนหนังสือจนเป็นนายร้อย และผมเป็นคนแรกของรุ่นที่ได้นายพล และยศใหญ่ที่สุดในรุ่น ดังนั้นการที่บอกว่าผมรับราชการไม่ประสบความสำเร็จอาจจะไม่ใช่ และการประสบความสำเร็จไม่ได้หมายความว่าต้องเป็น ผบ.ตร.

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าตนหนีคดี ป.ป.ช. สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจาก ปปช. ทำการสอบสวน แล้วตนลาออก เพราะถ้าอยู่จะเสื่อมเสียองค์กร ผมจึงลาออกมาต่อสู้ หลังจากนั้นก็ชนะคดี แต่ทำไม บิ๊กโจ๊ก หรือ คนว่าผม ทำไมคุณไม่ออกมาต่อสู้ เหมือนที่ รองเต่า จรูญเกียรติ์ พูดไว้