ป.ป.ส. รับตัวผู้ต้องหา คดียาเสพติดข้ามชาติ จาก สปป.ลาว

ป.ป.ส. รับตัวผู้ต้องหา คดียาเสพติดข้ามชาติ จาก สปป.ลาว

View icon 190
วันที่ 28 มิ.ย. 2567 | 17.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ป.ป.ส. รับตัวผู้ต้องหา คดียาเสพติดข้ามชาติ จาก สปป.ลาว หลังผู้ต้องหาหนีหมายจับเข้า สปป.ลาว ก่อนถูกทางการ สปป.ลาวจับกุม

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ได้รับมอบตัวนายปราโมทย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี จาก สปป.ลาว พร้อมทั้งเข้าขอบคุณและหารือข้อราชการกับ พลตรี คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ เพื่อขอบคุณสำหรับความร่วมมือในการช่วยจับกุมเป้าหมายตามหมายจับไทย ณ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า "เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่กรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้จับกุมนายปราโมทย์ หรือปั๊กชั่ว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 53/2567 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 และหมายจับที่ จ.55/2567 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ในความผิดฐาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ณ บ้านพักในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

และวันนี้ (28 มิถุนายน 2567) ทางการ สปป.ลาว ได้ส่งมอบตัวนายปราโมทย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ให้แก่ทางการไทย ณ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (จ.หนองคาย - นครหลวงเวียงจันทน์) เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนข้อมูลข่าวสารของนายปราโมทย์ พบว่าหลบหนีหมายจับไปพักอาศัยและสร้างเครือข่ายอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งนายปราโมทย์  ยังคงมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดหาและติดต่อนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยผ่านพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีเครือข่ายที่ลักลอบนำเข้ายาบ้าเฉลี่ยเดือนละประมาณ 2,000,000 – 5,000,000 เม็ด นอกจากนี้ยังมีการลักลอบนำเข้า คอลลาเจน คีตามีน เอ็กซ์ตาซี โดยนำมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.นครราชสีมา รวมทั้งพื้นที่ตอนในภาคกลาง และภาคใต้

สำนักงาน ป.ป.ส. อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติด ณ กรุงเวียงจันทน์ ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงประสานงาน กับสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao National Commission for Drug Control and Supervision : LCDC) ก่อนจับกุม นายปราโมทย์ได้สำเร็จ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า "การส่งตัวนักค้ายาเสพติดข้ามแดนครั้งนี้ เป็นแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มีหนึ่งในจุดเน้นคือ การสืบสวน ปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด มุ่งเน้นการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการค้าที่มีโครงสร้างการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน พร้อมให้ความสำคัญกับการจับกุมผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีหมายจับและหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน"

ปัจจุบัน ผู้ต้องหารายสำคัญหลายรายได้หลบหนีหมายจับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้ประสานงานกับต่างประเทศ เพื่อนำตัวผู้ต้องหาเหล่านั้นมาลงโทษ โดยยังมีผู้ต้องหาหลายรายที่เราได้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อตามจับกุมและนำมาดำเนินคดีที่ไทย

นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดภายใน 90 วัน และกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เด็ดขาด และเห็นผลการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้ประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง