หนุ่มเครียดขั้นสุด! กระโดดให้รถไฟทับร่างขาดสยอง

หนุ่มเครียดขั้นสุด! กระโดดให้รถไฟทับร่างขาดสยอง

View icon 532
วันที่ 1 ก.ค. 2567 | 18.13 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มนครราชสีมา วัย 46 ปี กระโดดให้รถไฟทับร่างขาดสองท่อนเสียชีวิตทันที ด้านขณะที่ชาวบ้านกำลังถ่ายคลิปส่งเพื่อน กลายเป็นบันทึกวินาทีมรณะช็อกคาตา

1 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา บริเวณชานชาลาที่ 1 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังจากรับแจ้งจากนายฤทธิเดช รอดศรี นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ว่า มีคนฆ่าตัวตายโดยการกระโดดให้รถไฟทับร่างจนขาดสองท่อน เมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างชายสภาพไม่สวมเสื้อ สภาพศพขาดแยกกันสองท่อนบริเวณช่วงบั้นเอว ส่วนขบวนรถที่เกิดเหตุคือ ขบวนที่ 86 นครศรีธรรมราช-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีกำหนดออกจากสถานีนครศรีธรรมราชเวลา 16.00 น.

ขณะเดียวกันได้มีผู้ส่งมอบคลิปที่ถูกบันทึกไว้ได้โดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นผู้ที่มาส่งเพื่อนขึ้นโดยสารรถไฟขบวนนี้ได้บันทึกขณะที่ตู้โดยสารชั้น 1 ที่เพื่อนโดยสารกำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานีปรากฎว่าชายรายนี้ได้ตรงเข้ามาพยายามกระโดดขวางล้อรถไฟ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที ในขณะที่ผู้บันทึกร้องเสียงหลงกับเหตุการณ์สยองขวัญที่เกิดขึ้นต่อหน้า ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานประจำตัวพบว่ามีกระเป๋าและสัมภาระของผู้ตายตั้งอยู่บนเก้าในที่พักบนชานชาลาห่างไปราว 600 เมตร มีเสื้อผ้าและเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนายมานพ อายุ 46 ปี ชาว จ.นครราชสีมา

ด้าน พนักงานดูแลความสะอาดขบวนรถ ระบุว่าชายรายนี้อาศัยอยู่ที่สถานีมาได้ 5-6 วันแล้ว อยู่ในสภาพที่เครียดหนัก ก่อนหน้าได้อยู่บริเวรตอนหน้าของสถานีทางเดินของผู้โดยสาร พนักงานจึงบอกให้มาอยู่ด้านใน จะได้ไม่เป็นที่ไม่สบายตาของผู้โดยสาร จึงมาอยู่ในที่นั่งพักผู้โดยสารและผู้มารอรับแนวสุดท้าย ก่อนเกิดเหตุชายคนดังกล่าวกระโดดพุ่งเข้าใส่ขบวนรถขณะที่ขบวนกำลังเคลื่อนออกจากสถานีตามเวล าโดยเจตนาต่อหน้าหลาย ๆ คน ทำให้ต่างตกตะลึงขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือแต่ไม่เป็นเหตุด้วยล้อรถได้บดร่างทับไปจนขาดสองท่อนเสียชีวิตทันที พนักงานจึงวิทยุให้ พขร.หยุดขบวน

ขณะที่ นายฤทธิเดช รอดศรี นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ได้พยายามเร่งแก้ปัญหาความล่าช้าของขบวนรถโดยมีความล่าช้าจากปกติไปกว่า 1 ชม. และพยายามให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเคลื่อนย้ายร่างก่อนที่จะเร่งเคลื่อนขบวนไปก่อนตาม พรบ.การเดินรถ แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่กล้าดำเนินการต้องรอพนักงานสอบสวนสั่งการ เนื่องจากการเดินทางมามีความล่าช้าจากการจราจร แต่ในสุดหลังจากขบวนรถต้องล่าช้าไปกว่า 1.30 ชม. จึงเคลื่อนขบวนออกไปได้ ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ได้ดกูออกมาเพื่อฝากรอญาติ และพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนเนื่องจากไม่ใช่เป็นการเกิดอุบัติเหตุแต่เป็นการอัตวินิบาตกรรมของผู้เสียชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง