ดร.เอ้ เตือนวิกฤตหนัก เด็กหลุดจากการศึกษาทะลุล้านคน

ดร.เอ้ เตือนวิกฤตหนัก เด็กหลุดจากการศึกษาทะลุล้านคน

View icon 95
วันที่ 4 ก.ค. 2567 | 12.35 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดร.เอ้ เตือนไทยวิกฤตหนัก เด็กหลุดจากการศึกษาทะลุ 1 ล้านคน เรียนถึงมหาวิทยาลัยอาจมีเพียง 30% ห่วงตกหลุมลึกแข่งขันไม่ได้ Upskill - Reskill ทักษะแรงงาน เป็นเพียงวาทกรรม ให้มาผลาญงบประมาณ

วันนี้ (4 ก.ค.67) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม.ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นถึงความวิกฤตเกี่ยวกับการศึกษาไทย โดยระบุว่าเด็กไทยหลุดจากโรงเรียน ทะลุ 1 ล้าน จะช่วยกันอย่างไรดี สถิตินี้น่ากลัวมาก ทั้งที่มี เด็กเกิดน้อยลง คือ วิกฤตที่สุดแล้ว แต่ผู้นำยังละเลย ทั้งที่เป็นเรื่องที่น่าอันตราย ต่ออนาคตประเทศไทยอย่างที่สุดแล้ว

เด็กหลุดจากการศึกษา ดร.เอ้ อธิบายถึงผลกระทบที่จะมีต่อประเทศไทยและสังคมไทย ไว้ดังนี้
1. ที่นั่งในมหาวิทยาลัย จะยิ่งว่างมากขึ้น เพราะเราส่งเด็กไทย ไปไม่ถึงชั้นมหาวิทยาลัย ถือเป็นความสูญเสีย ทั้งเสียโอกาสในการเสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่ และเสียโอกาสการลงทุน ที่รัฐทุ่มไปกับการพัฒนามหาวิทยาลัยทุกปี ๆ แต่มีเด็กเรียนน้อยลง   ขณะที่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มุ่งเป้าส่งเด็กเรียนไปถึงมหาวิทยาลัย ได้เกือบ 100% 

ด้านประเทศมาเลเซีย ก็ประกาศ ส่งเด็กเรียนให้ถึงมหาวิทยาลัย อย่างน้อย 70% ขณะที่ประเทศไทยอาจมีเพียง 30% เท่านั้น  แบบนี้ ยิ่งนานวัน นอกจากไทยจะแข่งขันไม่ได้ ยังต้องเกิดเป็นภาระในการดูแล พลเมืองด้อยโอกาส ข้ามรุ่น ซึ่งถือว่า น่ากลัวมาก

2. แรงงานทักษะต่ำเพิ่ม แรงงานทักษะสูงลด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ยิ่งกว่าสึนามิ เพราะโลกยุคดิสรัปชัน ไม่ได้แข่งที่ "ทำของถูก" ไม่ได้แข่งกันที่ "ภาคการผลิตของพื้น ๆ ง่าย ๆ " เท่านั้น แต่แข่งกันที่สินค้ามูลค่าสูง ที่ต้องใช้แรงงานทักษะระดับปัญญา มาเอาชนะกัน

ทุกวันนี้ ประเทศไทยตกหลุมลึก เรื่องการยกระดับทักษะพลเมือง การทำ "Upskill" "Reskill" เป็นเพียงวาทกรรม ให้มาผลาญงบประมาณ หากผู้นำไม่ลงไปกำกับจริงจัง อาจทำให้อนาคตไทยหมดสภาพการแข่งขัน ซึ่งน่าห่วงที่สุด

3. ปัญหาสังคมทุกเรื่อง กำลังตามมา เด็กไทย อยู่ในวัยเยาว์จนถึงวัยรุ่น ออกจากโรงเรียนก่อนเวลา ขาดการดูแล ทำให้สังคมไทยต้องเผชิญปัญหา แม่วัยใส เด็กติดยาเสพติด เด็กติดการพนัน และสุขภาพทรุดโทรมเร็วกว่าคนที่มีความรู้มากกว่า   ปัญหาสังคมจากพลเมืองไม่มีความรู้ หรือเรียนน้อย จะเป็นปัญหาที่รัฐ ต้องมาตามแก้ไม่รู้จบ ซึ่งเป็นอันตรายมาก

ดร.เอ้ ระบุด้วยว่า สาเหตุการออกจากโรงเรียน มีหลายสาเหตุที่ต้องมาคิดวิเคราะห์ด้วยข้อมูลรอบด้าน แม้ว่าสาเหตุใหญ่ อาจมาจากความยากจน แต่ก็มีอีกหลายปัจจัยรุมเร้า เร่งให้ผู้ปกครองยอมแพ้ ไม่สู้ ไม่ส่งลูกเรียนต่อ ผู้นำจึงต้องทำจริงจังเรื่อง การพัฒนาคนให้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด อย่าเพิกเฉย ปล่อยปัญหาให้หนักหนา ไม่เช่นนั้น ไม่นาน ไทยอาจซบเซา สู้เขาไม่ได้