ซ้อลักษณ์ จุดธูปสาบานแฉ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง

View icon 113
วันที่ 4 ก.ค. 2567 | 17.21 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "ซ้อลักษณ์" พร้อม "นายแม่ปุ๊กกี้" แถลงข่าวสุดเดือด อ้าง "ต้นอ้อ" หลอกซื้อวุฒิการศึกษา แถมขุดเบื้องหลังมูลนิธิเป็นหนึ่ง

ซ้อลักษณ์ จุดธูปสาบานแฉ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง
ยังคงเป็นประเด็นให้ตามกันต่อ หลังจาก นางสาววิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษณ์ แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ดำเนินคดีเอาผิด นางสาวชลิดา หรือ ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง กรณีหลอกลวงให้ซื้อวุฒิการศึกษา 200,000 บาท ก่อนต่อยอดซื้อตำแหน่ง เป็นคณะทำงานรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ด้วยเงิน 60,000 บาท ซึ่งทาง ต้นอ้อ ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริงนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ค.) ซ้อลักษณ์ พร้อม นายแม่ปุ๊กกี้ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง และนางสาวส้ม ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ นำเอกสารหลักฐาน และคลิปเสียงทั้งหมด ยื่นให้มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มแถลงข่าว ซ้อลักษณ์ ได้จุดธูปสาบานต่อหน้าพญานาค บริเวณน้ำพุพญานาค ด้านหน้ามูลนิธิฯ

ซ้อลักษณ์ กล่าวว่า รู้จักกับ ต้นอ้อ หลังจากขอความช่วยเหลือ กรณีถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย และฮุบสมบัติ ตอนนั้นไม่มีใครนอกจากเขา ทำให้ไว้ใจทุกอย่าง เขาบอกว่ามีผู้ใหญ่ที่รู้จัก ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ได้ เริ่มจากหว่านล้อมให้ซื้อวุฒิการศึกษา เนื่องจากตนเองเรียนจบเพียงแค่ ม.6 แม้จะแย้งว่ามันผิดกฎหมาย แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่เป็นไร เพราะรู้จักผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยเยอะ จึงหลงเชื่อ

จากนั้นพยายามให้ซื้อตำแหน่งเป็นคณะทำงาน ของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยใช้คำพูดเดิม ๆ ว่า รู้จักผู้ใหญ่ในรัฐสภาเยอะ ส่วนที่อีกฝ่ายตอบโต้ว่า หลักฐานแช็ตไลน์เป็นของปลอม ขอยืนยันว่าเป็นแช็ตจริง

ช่วงที่ถูกหว่านล้อมให้ซื้อวุฒิการศึกษา มีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลที่ชื่อ นายเกษียณ ที่อ้างว่าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 50,000 บาท ครั้งที่ 50,000 บาท ครั้งที่ 99,500 บาท ส่วนครั้งที่ 4 โอนเข้าบัญชีประธานมูลนิธิฯ 1,500 บาท

ซ้อลักษณ์ ยืนยันว่า ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ไปมหาวิทยาลัย และไม่เคยเซ็นเอกสารสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัย แต่มีชื่อไปอยู่ในประกาศของมหาวิทยาลัย โดยเรื่องของการซื้อวุฒิ ยอมรับว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังจากนี้ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย

อ้างมูลนิธิเป็นหนึ่ง เวทีชุบตัว !
ขณะที่ นายแม่ปุ๊กกี้ กล่าวว่า คนที่โดนเรื่องนี้เยอะสุด คือ ตนเอง เพราะเป็นคนเปิดเรื่อง ถามว่าทำไมรู้มาก่อนแล้วไม่เตือน ขอชี้แจงว่าเคยเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง แถมทุกวันนี้ยังทำทุกอย่างมาเล่นงาน ทั้งปั่นข่าวแฟนคลับ และกลุ่มต่อต้านลัทธิเชื่อมจิต ให้มาเล่นงานตนเอง แถมบอกว่ามีความสนิทกับ "ทนายธรรมมราช" อีกด้วย

บางช่วง นายแม่ปุ๊กกี้ ถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่ พร้อมระบุว่าตอนนี้มีหลักฐานครบทุกอย่างว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำเป็นขบวนการ เพราะคนในมูลนิธิเป็นหนึ่ง เป็นคนของรัฐสภา มีวัตถุประสงค์ต้องการชุบตัวเพื่อหาเสียง ฉะนั้นตนเองต้องออกมา เพราะอยู่กับมูลนิธิฯ ที่หาผลประโยชน์กับชาวบ้านไม่ได้ เพราะมีการสอนให้รู้จักการฮั้วประมูล ตรงนี้ไม่ขอยุ่งดีกว่า 

ส่วนตัวเจ็บใจ เพราะเป็นคนเริ่มก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง แต่เขาไม่เคยมองเห็น เพราะตอนเริ่มก่อตั้ง ตนเองซัปพอร์ตทุกอย่าง แม้กระทั่งรองเท้าคู่ละ 48,000 บาท ซื้อมาใส่แค่ครั้งเดียว ก็ยกให้เขา ด้วยความรักและไม่เคยขายเพื่อน แต่เพื่อนกลับมาทำร้ายเรา

อ้าง "ต้นอ้อ" แอบอ้างรู้จักคนใหญ่คนโต
ด้าน นางสาวส้ม หนึ่งในผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ บอกว่า รู้จัก ต้นอ้อ ผ่านน้องสาว โดยน้องสาวให้เล่นแชร์แทน เมื่อเห็นว่าโพรไฟล์ดี จึงรับเล่นแทนตั้งแต่ต้นปี 2560 วงแรก 100,000 บาท ไม่มีปัญหา แต่วงต่อมา 300,000 บาท มีปัญหาตั้งแต่มือที่ 16 เป็นต้นไป

คู่กรณีบอกว่าถึงดีลแล้วจะคืน แต่อีกวันกลับบอกว่าคืนไม่ได้แล้ว เพราะถูกโกง ตอนนี้ตนเองได้รับความเสียหายเป็นเงิน 480,000 บาท ในกลุ่มที่แจ้งความมี 5 คน วงเงินประมาณ 3,000,000 กว่าบาท นอกจากนี้ยังมีการแอบอ้างรู้จักคนในวัง และเคยบอกว่าจะบินไปหา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศ บอกรู้จักเลขารัฐมนตรีและพรรคการเมือง ฉะนั้นถ้ามีพาวเวอร์เยอะแบบนี้ ก็น่าจะติดตามคนที่โกงเงินมาคืนได้ ยังไม่รวมถึงแอบอ้างว่า กำลังจะมีโครงการรีโนเวตบ้านเอื้ออาทร หรือโครงการในพระราชดำริ เป็นต้น

แจง "ซ้อลักษณ์" ปมซื้อวุฒิการศึกษา
ส่วนทนายความของมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม แจ้งว่ากรณีซื้อวุฒิการศึกษาของ ซ้อลักษณ์ สามารถแจ้งความดำเนินคดี ต้นอ้อ ได้ ในข้อหาฉ้อโกง ส่วน ซ้อลักษณ์ จะโดนข้อหาเรื่องการปลอมเอกสารด้วยหรือไม่ กรณีนี้ยังไม่ได้วุฒิการศึกษา และยังไม่จบการศึกษา แต่ถ้าจบแล้วนำวุฒิการศึกษานั้นไปใช้ จะโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะต้องดูเจตนาของผู้ที่มาหลอกว่า ต้องการทุจริตตั้งแต่แรกหรือไม่

จากการตรวจสอบแช็ตไลน์ พบอีกฝ่ายเป็นผู้เสนอมาก่อน เรื่องของบัตรคณะทำงาน และเสนอว่าต้องมีวุฒิปริญญาตรี จนทำให้เกิดการซื้อขายวุฒิการศึกษาตามมา

"ต้นอ้อ" ย้ำไม่เคยหลอกซื้อ-ขายวุฒิการศึกษา
ต้นอ้อ ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่ได้หลอกให้ใครซื้อวุฒิการศึกษา และไม่ได้รับเงินใคร เพราะทางมหาวิทยาลัยแถลงการณ์ชัดเจนแล้วว่า ไม่มีการซื้อขายวุฒิการศึกษา หลังจากนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนกระแสดรามาที่โจมตี จะส่งผลต่อการทำงานมูลนิธิเป็นหนึ่งหรือไม่ ต้องดูว่าสังคมยังต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ เพราะตนเองเต็มใจช่วยสังคมเสมอ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้ มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ เพราะตนเองกำลังทำคดีใหญ่อยู่

เลิกจ้าง "อาจารย์" เอี่ยวแก๊งซื้อ-ขายวุฒิการศึกษา จ.พิษณุโลก
สำหรับประเด็นซื้อขายวุฒิการศึกษาปลอมนั้น ล่าสุด มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ออกประกาศมีเนื้อหาสำคัญว่า จากการประชุมคณะกรรมการ สืบหาข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน พบมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัย 1 ท่าน มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกระบวนการดังกล่าว

เมื่อพิจารณาแล้ว มีมูลความจริง จึงดำเนินการลงโทษตามข้อบังคับ เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อ (52.1) ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และข้อ 54.2 ทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อ 52.1 ให้ลงโทษบอกเลิกสัญญาจ้าง และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ นายมานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ชี้แจงว่านักศึกษาที่เป็นข่าว ยังเป็นนักศึกษาอยู่ เริ่มมาสมัครในระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 แต่ถ้านักศึกษาไม่มาเรียน แม้ว่าจะสมัครแล้ว ก็จะหมดสิทธิเป็นนักศึกษา ต้องคัดชื่อออกตามระเบียบ ส่วนกรณีมีการแอบอ้างว่า ซื้อวุฒิการศึกษาทางลัดได้ ขอย้ำว่าทางมหาวิทยาลัยไม่ทราบเรื่องดังกล่าว หลังจากนี้จะมอบหมายทีมกฎหมาย ดำเนินคดีอาจารย์คนดังกล่าว และบุคคลที่ทำให้เสียชื่อเสียงต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง