ยังไกล่เกลี่ยไม่จบ ปมทวงหนี้ 2 ล้าน ลูกหมี-ปู มัณฑนา หาญส์ ลั่น ฟ้องกลับ ชดใช้ทำ ตระกูลหิมะทองคำ เสียหาย
ปมยืมเงิน 2 ล้าน วันนี้ (4 ก.ค.67) ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี นางแบบดัง กับ ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ต่างเดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อไกล่เกลี่ยคดีทวงหนี้เงินกู้ยืม 2 ล้านบาท โดยหลังจากทั้ง 2 ฝ่าย เดินทางมาถึง สน. ทองหล่อ เจ้าหน้าที่ได้แยกสอบปากคำ โดยไม่ให้มีการเผชิญหน้ากัน แต่หลังจากที่ปู มัณฑณา ได้เข้าไปในห้องสอบสวนประมาณกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมกับสามี นายหาญส์ หิมะทองคำ และทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยนำชาร์ตรายการเดินบัญชี จำนวน 4 แผ่น และแชตไลน์การพูดคุยระหว่างปูมัณฑนา กับ ลูกหมี จำนวน 16 แผ่น มาแสดงต่อสื่อมวลชน
ทนายประมาณ ได้อธิบายให้สื่อมวลชนรับฟัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นยอดหนี้ 2.7 ล้านบาท และระบุว่า ยังเหลือก้อนหนี้อีก 2 ล้านบาทที่เป็นประเด็น พร้อมทั้งยกตัวอย่างเส้นทางการโอนเงินเพื่อกู้ยืม ซึ่งมีการการคิดดอกเบี้ยรายชั่วโมง รายวัน หากคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยรายปี บางยอดดอกเบี้ยพุ่งสูงถึง 1,825% ต่อปี
จากนั้น ทนายประมาณ ได้นำเอาแชตไลน์ เป็นข้อความที่พูดคุยกัน แสดงให้เห็นว่ามีการเรียกอัตราดอกเบี้ยกับ ปู มัณฑนา จริง พร้อมยกตัวอย่างบางข้อมูล เช่น ลูกหมีไม่เก่งตัวเลข ไม่เคยให้ใครกู้ยืม แต่บางทีพี่เขาโอนให้ 1,000- 2,000 รวมถึงข้อความที่ให้ ปู มัณฑนา เขียนเช็คไว้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการไปออกรายการต่าง ๆ ทำให้ปู มัณฑนา ได้รับความเสื่อมเสีย ยืนยันว่าทุกวัน ทุกจำนวน มีที่มาที่ไปทั้งหมด และยอดหนี้วันนี้ วันที่ลูกหมีโอนมา กับปูมัณฑนา โอนกลับคืน หักลบกันแล้ว เหลืออยู่ 1.4 ล้านบาท ปัญหาคือ 1.4 ล้านบาท จะจ่ายกันอย่างไร และชื่อเสียงของปู มัณฑนาที่ถูกทำลาย จะชดเชยอย่างไร ต้องเอาความจริงมาพูด และข้อมูลนี้ที่ไล่เรียงมาไม่ใช่จำนวน 2 ล้านบาท เพราะมีการรวมดอกเบี้ยไว้อยู่แล้ว
ทนายประมาณ กล่าวด้วยว่า วันนี้จำเป็นที่จะต้องพา ปู มัณฑนา มาที่ สน.ทองหล่อ และไกล่เกลี่ยกัน โดยยื่นข้อเสนอไปแล้วว่า 1.4 ล้านบาท ปู มัณฑนา และหาญส์ พร้อมจะรับผิดชอบ จะจ่ายสดก่อน หรือจะแยกก้อนจ่าย หรือทยอยจ่าย อย่างไร แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งเป็นประจานจะรับผิดชอบอย่างไร
ทนายประมาณ ระบุด้วยว่า มี 2 แนวทางไกล่เกลี่ย แนวทางแรก คือ เอาคดีเช็ค แยกจากคดีหมิ่นประมาท เหลือคดีหมิ่นประมาท ที่จะเตรียมฟ้อง 3 คน ก็จัดการตามกฏหมาย และแนวทางที่ 2 จะรับผิดชอบอย่างไร ในเรื่องที่ทำลงไปตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.67 จนถึงเช้าวันนี้ (4 ก.ค.67)
ด้านนายหาญส์ ระบุว่า คำแรกที่ต้องพูด คือ คนมีหนี้ ต้องใช้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าวงเงินนี้เขาลงไว้ 2 ล้าน อย่าเรียกว่าเป็นคดีเพราะนี่ไม่ใช่คดี เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ จริง ๆ แล้วสามารถประนีประนอมที่ สน. ได้ ที่ผ่านมายืนยันว่าเคยคุยกันไม่เกิน 10 คำ และมีการแอด LINE ส่งบันทึกประจำวันมา ซึ่งตนก็ไม่ได้อ่าน
“ที่โมโห และกระทบมากที่สุดคือ ลูก 3 คน ถูกล้อเลียน และตระกูลของหิมะทองคำ เสียชื่อเสียงกับข่าวที่ออกมา เหมือนเป็นการกรีดหัวใจ เป็นแผลเป็นไปจนวันสุดท้ายของชีวิต เพราะเรื่องที่ไปพูดเป็นความเท็จ จะรับผิดชอบอย่างไร ผมจึงเตรียมฟ้องกลับ คนที่ทำให้นามสกุลต้องเสียหาย และจะนำเงินที่ได้ ไปบริจาคในนาม “หาญส์ หิมะทองคำ” ยืนยันว่าวันนี้เตรียมแจ้งความ และฟ้อง เริ่มจากการรายการหลัก ๆ” นายหาญส์ กล่าว
ด้านปู มัณฑณา ยืนยันว่า จะคืนเงินลูกหมีแน่นอน ส่วนระยะเวลาในการคืนนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า หากอีกฝ่ายขอให้คืนเงินในวันนี้ พร้อมคืนใช่หรือไม่ ปู มัณฑณา กล่าวว่า มีพร้อมที่จะคืนให้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำกับปู ทำกับลูกปู และทำครอบครัวปู เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนยอดหนี้ที่ค้างอยู่อย่างไรก็ต้องใช้อยู่แล้ว ยืนยันว่า ไม่เคยห่างหายการพูดคุยกับลูกหมี สามารถดูตามแชตไลน์ได้เลยว่ามีการติดต่อกัน
ส่วนเรื่องเช็คเด้ง ปูมัณฑนา ชี้แจงว่า ลูกหมี เป็นคนขอเองว่า นำไปค้ำประกันเพื่อความสบายใจ ไม่ว่าฝั่งลูกหมีจะขอให้ทำอะไร หรือเซ็นอะไร แม้แต่เป็นลายเซ็นในกระดาษเปล่า ทั้งที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะเขียนเนื้อหาอะไร ปูก็ยินยอมทำตาม
ปู มัณฑนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำกับลูก ทำกับปู จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด ก่อนที่ทนายความจะพูดว่า เวรกรรมมีจริง ปูมัณฑนา จึงกล่าวรับว่า “ใช่ค่ะ เวรกรรมมีจริง”
