วันนี้ (5 ก.ค.67) โรงพยาบาลนครพิงค์เปิดเคสพบไม่บ่อย แต่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม ผู้ป่วยเป็นเด็กหญิง วัย 4 ขวบ ปวดท้องน้อย 1-2 วัน ก่อนมาโรงพยาบาล เคสนี้คุณยายสังเกตว่าเด็กท้องอืดโตขึ้น และต่อมาอาการปวดท้องเป็นมากขึ้น ผู้ปกครองจึงพามาโรงพยาบาล
พญ.กนิษฐา มั่นเข็มทอง กุมารแพทย์ สาขาโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า เคสนี้สูตินรีแพทย์ได้ตรวจร่างกาย อัลตราซาวด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่ามีก้อนเนื้องอกที่ปีกมดลูกขนาดใหญ่ แพทย์วางแผนการรักษาด้วยการผ่าตัด พบเนื้องอกที่รังไข่ข้างซ้าย และมีการบิดขั้วของตัวรังไข่ แพทยจึงได้ตัดก้อนเนื้องอกออก ผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี ผลตรวจชิ้นเนื้อ พบเป็นเนื้องอกธรรมดาของรังไข่ ไม่ใช่เนื้อร้าย ผู้ป่วยได้รับการดูแลหลังผ่าตัด และมีนัดตรวจติดตามอาการและเฝ้าระวังการเกิดเนื้องอกซ้ำ
โรงพยาบาลนครพิงค์ ให้คำอธิบายถึงโรคเนื้องอกรังไข่ในเด็ก ว่าเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยในเด็ก แต่พบได้ทุกช่วงอายุ สาเหตุแตกต่างจากผู้ใหญ่ โดยในเด็กมักจะเป็นเนื้องอกธรรมดา หรือถุงน้ำที่รังไข่ที่ไม่ใช่เนื้อร้าย มีเพียง 3-8% เท่านั้น ที่เป็นมะเร็งที่รังไข่ หรือคิดเป็น 1% ของมะเร็งในเด็ก โดยในส่วนของมะเร็งมักเกิดจากมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์ของรังไข่ (Germ cell tumor)
![66877b1fcd5231.74327415.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2024/07/05/66877b1fcd5231.74327415.jpg)
สำหรับอาการของเนื้องอกรังไข่ ส่วนใหญ่ มักเริ่มจากการมีท้องอืด คลำได้ก้อนในท้อง ปวดท้อง รวมถึงอาการกดเบียดของก้อนไปที่อวัยวะข้างเคียง ได้แก่ อาเจียน ขับถ่ายผิดปกติ ซึ่งมีความสำคัญ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการและพาบุตรหลานมาพบแพทย์
การวินิจฉัยโรคแยกโรคอาศัยลักษณะอาการของผู้ป่วย ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่
- การตรวจทางรังสีวิทยา เช่น การตรวจคลื่นความถี่สูง หรือการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อดูรอยโรคและการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง
- การตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor marker) ได้แก่ AFP, B-HCG, CA-125, CA19-9 อาจพบค่าสูงกว่าปกติได้ในกรณีที่เป็นมะเร็ง
- การวินิจฉัยและการรักษาต้องอาศัยการผ่าตัดเป็นหลัก เพื่อตัดเอาก้อนมาส่งตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อจำแนกชนิดและดูความเป็นมะเร็งรวมถึงประเมินการกระจายของโรคไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะข้างเคียง
ทั้งนี้ เนื้องอกรังไข่ที่ไม่ใช่มะเร็ง ส่วนใหญ่มักมีลักษณะเป็นถุงน้ำ อาจเป็นถุงน้ำปกติ เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่ หรือเป็นหนองจากการติดเชื้อในช่องท้อง ก้อนมักมีขนาดไม่ใหญ่ (<8-10 cm) บางครั้งพบการบิดขั้วทำให้มีอาการปวดท้องแบบรุนแรงได้
พญ.กนิษฐา ให้ข้อมูลด้วยว่า ส่วนเนื้อร้ายที่พบบ่อยที่ตำแหน่งนี้ คือ มะเร็งเซลล์สืบพันธุ์ของรังไข่ เป็นเนื้องอกของเซลล์ที่จะพัฒนาไปเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ (Germ cell tumor) พบมากเป็นลำดับที่ 5 ของโรคมะเร็งในเด็ก พบบ่อย 2 ช่วงอายุ คือ ในอายุ 1-4 ขวบ และ 15-19 ปี อาการมักค่อยเป็นค่อยไป ร้อยละ 85% สามารถคลำได้ก้อนที่ท้องน้อยตรงอุ้งเชิงกราน 10-15% มีปวดท้องแบบรุนแรงจากการมีเลือดออก การบิดขั้ว หรือการแตกออกของก้อนมะเร็ง การรักษาทำได้โดยการผ่าตัด และให้เคมีบำบัด หากทำการผ่าตัดได้ยาก อาจพิจารณาให้การรักษาเคมีบำบัดก่อนเพื่อลดขนาดของก้อนเพื่อให้ผ่าตัดง่ายขึ้น