โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเหตุ อ้างเป็น ตร. จากหน่วยเหนือ มาคุกคามนายกสมาคมกีฬาคนตาบอด

โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเหตุ อ้างเป็น ตร. จากหน่วยเหนือ มาคุกคามนายกสมาคมกีฬาคนตาบอด

View icon 334
วันที่ 7 ก.ค. 2567 | 10.48 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จากกรณีที่มีกลุ่มนักกีฬาคนตาบอด เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม และให้ตรวจสอบการฮุบโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2,647 เล่ม ของนักกีฬาคนตาบอด ซึ่งเกิดความเข้าใจผิด ในเรื่องการเป็นสมาชิกรับสลากฯ กับสมาชิกสามัญของสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดวันที่ 6 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายกองตรี ดร.สุธน จิตร์มั่น เลขาธิการสมาคมฯ, พลเอก วิทยา ขันธอุบล ประธานที่ปรึกษาสมาคมฯ และ พลโท ถาวร ไทยแขก คณะอนุกรรมการสมาคมฯ ได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมการแจกจ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ของ งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ให้กับสมาชิกผู้รับสลากฯ ของสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย 

นายอำนวย เปิดเผยว่า ตนเองในฐานะนายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งในวันนี้ได้เชิญสื่อ มาเยี่ยมชมการแจกจ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งทำเป็นประจำทุกวันที่ 6 และวันที่ 21 ของทุกเดือน ที่เราทำมานานหลายปีแล้ว และที่ผ่านมาจะมีสมาชิกผู้รับสลากฯของเราเข้ามารับแบบนี้เป็นประจำ โดยสมาคมฯ จะมีการจัดสรรโควตาสลากฯ ให้กับสมาชิกผู้รับสลากฯ หลังจากได้รับโควตาจากสำนักงานสลากฯ จำนวน 2,647 เล่ม จึงได้นำสื่อมาชมให้เห็นกับตาว่า เราได้แจกจ่ายสลากฯ ให้กับสมาชิกผู้รับสลากฯ จริง ๆ ไม่ใช่ตามที่ถูกกลุ่มคนที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงท่านนายกรัฐมนตรีตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งทางตนเองและสมาคมฯ พร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการร้องเรียนไป กลับมีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาซุ่มสังเกตการณ์พฤติกรรมของตนเอง และเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ อีกทั้งกล้องวงจรปิดทุกตัวของสมาคมฯ ก็ถูกคลื่นสัญญาณรบกวน ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาซุ่มอยู่ จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน เมื่อตนเองให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามก็ได้แสดงตัว พร้อมแสดงบัตรว่าเป็นตำรวจ โดยอ้างว่าหน่วยเหนือสั่งให้มา ตนเองจึงไม่รู้ว่าหน่วยเหนือที่กล่าวนี้ เป็นหน่วยเหนืออะไร เหนือกฎหมาย เหนือระเบียบข้อบังคับ เหนือคุณธรรม หรือว่าเป็นคำสั่งผู้มีอำนาจ หรืออย่างไร ยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น เพราะถูกคุกคาม จึงได้ประสานกับ พล.อ.วิทยา ขันธอุบล ประธานที่ปรึกษาสมาคมฯ และ พล.ท.ถาวร ไทยแขก คณะอนุกรรมการสมาคมฯ ให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยให้ในเบื้องต้น

นอกจากนี้ นายอำนวย ยังกล่าวอีกว่า ตนเองประกอบอาชีพการค้าสลากมามากกว่า 50 ปี จึงทำให้รู้จักคนเยอะ ทั้งนักการเมือง และบุคคลที่มีชื่อเสียง  ซึ่งก็มีการไปร่วมกิจกรรม ทำประโยชน์สาธารณะด้วยกัน จึงอาจจะทำให้มีการเชื่อมโยงว่าตนเองเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มคนเหล่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว ตนเองไม่ได้ยึดโยงกับนักการเมืองกลุ่มใด ประกอบกับมีกลุ่มนักกีฬาคนตาบอดไปร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีที่ตนเองตัดสิทธิโควตาสลากฯ เนื่องจากนักกีฬาคนตาบอดกลุ่มนี้ไม่เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสมาคมฯ ว่าต้องการที่จะส่งเสริมให้นักกีฬาโฟกัสเรื่องของการฝึกซ้อม มากกว่าที่จะเอาเวลาไปเร่ขายสลากฯ จนนำมาสู่ความไม่พอใจ และร้องเรียน

ขณะเดียวกัน นายพนม และ นายศึกษา ลักษณะพริ้ม สมาชิกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยที่นักกีฬาคนตาบอดกลุ่มนี้ไปร้องเรียน เนื่องจากตนเองมองว่า ในเมื่อคุณเป็นนักกีฬา ก็ต้องโฟกัสเรื่องการฝึกซ้อมเป็นหลัก เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ และชื่อเสียงของตนเองและประเทศชาติ จึงไม่ควรเอาเวลาฝึกซ้อมมาเร่ขายสลากฯ จนทำให้เสียเวลาฝึกซ้อม ซึ่งทางสมาคมฯ ก็ได้ดูแลกลุ่มนักกีฬาเหล่านั้นด้วยดีมาตลอด โดยมีกองทุนสวัสดิการนักกีฬาคนตาบอด และบุคลากรทีมชาติไทยคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ ที่ผ่านมาถ้าได้อนุมัติเป็นนักกีฬาคนตาบอดทีมชาติไทย ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็สนับสนุนงบประมาณในการเก็บตัวฝึกซ้อม เป็นค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหารและค่าที่พัก จำนวนวันละ 900 บาท อยู่แล้ว และทางสมาคมฯบริหารงานอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้

ทั้งนี้ นายอำนวย ระบุว่า ตนเองรับไม่ได้จากการที่ถูกข่มขู่คุกคาม อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนพิการแล้วจะรังแกได้ตามใจชอบ โดยตนมีความเชื่อมั่นในความดี ในกฎหมายของบ้านเมือง และเชื่อในกฎแห่งกรรม ซึ่งหลังจากนี้ จะพิจารณาดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของตนเองต่อไป ตามที่จำเป็นและเห็นสมควร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง