ห้องข่าวภาคเที่ยง - คนร้ายชิงเงินสด 3.3 ล้านบาท ชัดเจนแล้วว่าจับกุมตัวได้ 1 คน อยู่ที่ สปป.ลาว รอส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย ส่วนอีก 2 คน ที่เหลือ มีข่าวดีเพิ่ม ตำรวจจับกุมได้อีก 1 คน และคนนี้คือ "หนอนบ่อนไส้"
พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล 4 จับกุมผู้ต้องหารายที่ 2 ในคดีนี้ได้แล้ว คือ นายจักรพงษ์ อายุ 44 ปี ได้ในพื้นที่เขตบางกะปิ
โดยข้อมูลตามแนวทางการสืบสวน พบว่า นายจักรพงษ์ เป็น "หนอนบ่อนไส้" รู้จักกับ "บอล ปากแหว่ง" เพราะเป็นรุ่นพี่ที่เคยเรียนอยู่สถาบันเดียวกัน และเคยก่อเหตุด้วยกันในคดีอื่นมาก่อน พอรู้ว่าผู้เสียหายจะถอนเงินจำนวนมากก็เลยโทรไปตาม "บอล" และผู้ก่อเหตุอีกคน มาคุยกันที่ใต้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ตอนประมาณ 20.00 น. ก่อนจะจัดหาที่หลับที่นอนให้ แล้วตอนที่เกิดเหตุ คนร้ายก็รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลกับตำรวจ จนตำรวจไปไล่ดูภาพวงจรปิด แล้วเจอว่ามีพิรุธ คล้ายจะพยายามถ่วงเวลาในการจะช่วยเหลือผู้เสียหาย
ส่วนเรื่องความคืบหน้าที่จะรับตัว นายนันทพร อายุ 35 ปี หรือ "บอล ปากแหว่ง" ตัวการสำคัญในคดีนี้ หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ สปป.ลาว ก็ต้องรอให้มีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศก่อน ถึงจะรู้ว่าสามารถที่จะส่งตัวมาได้เมื่อไหร่อย่างไร
ไปส่องดูประวัติผู้ต้องหาที่ก่อเหตุตอนนี้ 2 คน ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา อย่าง "บอล ปากแหว่ง" ก่อคดีหนัก ๆ เมื่อปี 2551 ทั้งร่วมกับเพื่อน 4 คน จี้บังคับหญิงสาวพาไปรุมโทรม แล้วชิงเงิน 10,000 บาท ก่อเหตุหลายท้องที่ แล้วในปีเดียวกันก็ใช้ปืนยิงนักศึกษา "อุเทนถวาย" ชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต 2 คน แล้วตอนที่ตำรวจกองปราบฯ ไปจับกุมตัว นายบอล ยังใช้ปืนยิงต่อสู้กับตำรวจด้วย พอพ้นโทษออกมา ปี 2566 ก็ยังฉุดหญิงไปรุมโทรม แล้วก่อเหตุชิงทรัพย์อีก
ส่วน นายจักรพงษ์ ได้ร่วมกับ "บอล" ก่อเหตุอย่างไรมาก่อน ยังไม่เปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ เมื่อปี 2552 ได้ร่วมกับลูกจ้างประจำ ที่ทำงานซ่อมเครื่องมือแพทย์ โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งค้ายาบ้า ตอนที่ตำรวจขยายผลจากเอเยนต์ค้ายารายย่อยไปเจอตัว ค้นในบ้านเจอยาบ้า 10,000 เม็ด, เจอปืนพร้อมกระสุน แล้วยังไปเจอเยาวชนหญิง 2 คน มั่วสุมเสพไอซ์อยู่ในบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งบ่ายวันนี้ตำรวจจะมีการแถลงความคืบหน้าเรื่องนี้ด้วย
