นายกฯ เผย ครม.อนุมัติเพิ่มเงินครู เป็น 18,000 บาท ทยอยปรับใน 2 ปี พร้อมย้ำถึงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ต้องไม่ให้เกิดการทุจริต ก.เกษตรฯ ต้องหาผู้ค้าปุ๋ยให้ได้ 40-50 ราย
วันนี้ (9 ก.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับอัตราสมทบเงินเดือนครู จาก 15,000 บาท เป็น 18,000 บาท โดยทยอยปรับใน 2 ปี และอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนขนาดเล็ก ที่มีขนาดนักเรียนไม่เกิน 200 คน
นอกจากนี้ ครม.มีมติอนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้จ่ายงบกลาง ปี 67 วงเงิน 1,939 ล้านบาท เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน สำหรับค่าไฟฟ้าเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน 67
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีการพูดคุยในรายละเอียดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่า โครงการชดเชยเยียวยา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ กับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นคนละโครงการกัน ในโครงการชดเชยเยียวยาเป็นโครงการตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว และเป็นการช่วยเหลือในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ที่ราคาข้าวอยู่ที่ 7,000-8,000 บาทต่อตัน แต่ปัจจุบันราคาข้าวดีขึ้นแล้ว จึงทำให้เกิดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อลดต้นทุนของเกษตรกร และเพิ่มจำนวนผลผลิตต่อไร่ของข้าว เป็นโครงการที่ยั่งยืนมากกว่า และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกเหนือจากราคาข้าว การใช้เกษตรแม่นยำ ใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามการวิเคราะห์จากหมอดิน ทำให้ทราบถึงความต้องการของปุ๋ยที่ถูกต้อง รวมถึงได้กำชับให้เรื่องค้าปุ๋ย จะต้องไม่ตกอยู่ในมือของผู้ค้าปุ๋ยแค่ 2-3 ราย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ต้องหาผู้ค้าปุ๋ยให้ได้ 40-50 ราย และต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ไม่ให้เกิดการทุจริต พร้อมย้ำว่า หากเกิดสถานการณ์วิกฤต เรื่องการเยียวยาให้กับเกษตรกร ก็จะมีการปรับตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. อนุมัติใช้เงินบำรุงโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อสร้างที่จอดรถ วงเงิน 118 ล้าน แต่เรื่องสำคัญ คือ การขาดแคลนบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล เทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด ถือเป็นบุคลากรที่มีคุณค่า จึงได้สั่งการไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ช่วยดูว่า จะเพิ่มบุคลากรเหล่านี้ได้อย่างไร