กองทัพภาคที่ 4 แจงเหตุทหารยิงขู่กลุ่มนักมวย แค่ลองปืนแบลงค์กัน พร้อมเอาผิดทางวินัย

กองทัพภาคที่ 4 แจงเหตุทหารยิงขู่กลุ่มนักมวย แค่ลองปืนแบลงค์กัน พร้อมเอาผิดทางวินัย

View icon 135
วันที่ 11 ก.ค. 2567 | 08.04 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กองทัพภาคที่ 4 ชี้แจง กรณี ทหารยิงปืนข่มขู่นักมวยขณะวิ่งออกกำลังกายในที่สาธารณะ แค่ลองปืนแบลงค์กัน เลยทำให้เข้าใจผิดคิดว่าข่มขู่ พร้อมเอาผิดทางวินัย ยืนยันไม่ปกป้อง

จากกรณี นักมวยค่ายดัง เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่าถูกชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นทหาร 3 คน ชักปืนรัวยิง 20 นัด ข่มขู่นักมวย 5 คน ขณะวิ่งออกกำลังกาย เหตุเกิด เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 67 เวลาประมาณ 16.30 น. บริเวณถนนเทิดพระเกียรติ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 67 พันเอก วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองทัพภาคที่ 4 ได้ออกมาเปิดเเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน และได้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้น ให้ท่านผู้บัญชาการทหารบกทราบแล้ว และจากการตรวจสอบ พบว่า ผู้กระทำผิดทั้ง 3 นาย คือ สิบเอก วิรัตน์  , พลทหาร อภิสิทธิ์  และ พลทหาร สิทธิศักดิ์ ซึ่งทั้ง 3 นาย เป็นทหารสังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 105 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

จากการสอบสวนเพิ่มเติม พบว่า อาวุธปืนดังกล่าว เป็นปืนแบลงค์กันหรือปืนจำลอง ซึ่งมีเสียงลักษณะคล้ายคลึงกับปืนจริง แต่ไม่มีหัวกระสุน โดยพลทหารทั้ง 2 นาย มีความสนใจปืนดังกล่าวของ สิบเอก วิรัตน์ บวชเณร จึงได้ติดต่อซื้อขายกัน และนำปืนไปยิงเพื่อทดสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ในขณะที่มีกลุ่มนักมวยวิ่งผ่านพอดี จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการข่มขู่

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 4 ต้องขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยทหารกับกำลังพลทั้ง 3 นาย ตามสั่งการของท่านแม่ทัพภาคที่ 4 แล้ว ส่วนความผิดทางอาญาให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยจะไม่มีการปกป้องผู้กระทำความผิดและขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้านทางกรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ในฐานะหน่วยบังคับบัญชา ได้ติดต่อพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้เสียหายดังกล่าวแล้ว และยอมรับผิดในทุกกรณี พร้อมกันนี้จะอำนวยความสะดวกในทางคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อได้รับการประสาน และในขั้นต้น จะนำตัวทหารทั้ง 3 นายไปพบกับผู้เสียหายที่ค่ายมวยเพื่อขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในโอกาสแรก ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง