ไม่เข็ด ! ฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจ บุกจับอดีตพระ เคยถูกจับไปก่อนหน้านี้ ได้รับการประกันตัวออกมาห่มเหลือเสพยา ถูกจับพร้อมอาวุธปืนอีกรอบ
วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายโกศล ธรรมวิเศษ นายอำเภอเขาวง จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเขาวง บูรณาการร่วมกับตำรวจ สภ.เขาวง ออกตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีประชาขนแจ้งว่ามีชายแต่งกายคล้ายพระ ทราบชื่อภายหลังคือนายพูลพัฒน์ อดีตพระสำนักสงฆ์ชมพูทวีป ซึ่งอยู่ที่วัดป่ากกหว้า ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง มีพฤติการณ์แต่งกายคล้ายพระ และเสพยาเสพติด
ทั้งนี้นายพูลพัฒน์ เคยถูกจับกุม และดำเนินคดีในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนปืน และข้อหาเสพยาเสพติด ไปเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา หลังจากกัน จอมพลัง หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจสภ.เขาวง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจับตัวพร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก ที่สำนักสงฆ์ชมพูทวีป หลังมีชายวัย 22 ปี ชาวกาฬสินธุ์ มาขอความช่วยเหลือ ซึ่งถูกพระสำนักสงฆ์ถือปืนบุกขู่ยิง
โดยการจับกุมครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ได้พา นายพูลพัฒน์ ไปลาสิกขา และถูกตำรวจนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันที่ 8 กรกฎาคม2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล แต่หลังจากที่ได้รับประกันตัวออกมา อดีตพระพูลพัฒน์ได้กลับไปห่มผ้าเหลืองอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย ภูกกองชนะ ผกก.เขาวง เผยว่า หลังรับแจ้งว่า อดีตพระพูลพัฒน์ได้กลับมาห่มผ้าเหลืองอีกครั้ง จึงได้ให้ตำรวจ สภ.เขาวง สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ลงตรวจสอบ ที่วัดป่ากกหว้า พบนายพูลพัฒน์ สวมใส่ผ้าสบง เลียนแบบเป็นพระภิกษุอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม เมื่ออดีตพระพูลพัฒน์ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้มีท่าทางตกใจ ท่าทางมีพิรุธ จึงสอบสวน ได้สารภาพว่า เสพยาบ้ามาประมาณ 2 วันที่แล้ว จึงขอตรวจค้นพบ อาวุธปืน ซุกซ่อนอยู่ที่ฐานเจดีย์ เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการแสดงตัวขอตรวจค้น
เบื้องต้นอดีตพระพูลพัฒน์ ยอมรับว่าอาวุธปืนของกลางดังกล่าว กำลังนำมาดัดแปลงซ่อมแซมด้ามปืน และนำตัวอดีตพระพูลพัฒน์ มาที่ สภ.เขาวง ตรวจหาสารเสพติด ผลเป็นบวก จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนปืน,เสพยาเสพติด และนำตัวส่ง พนักงานสอบ.สภ.เขาวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะนำตัวอดีตพระพูลพัฒน์ฝากครั้งต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ส่วนในเรื่องของการประกันตัวของผู้ต้องหานั้นเป็นสิทธิของผู้ต้องหา และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์
