สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ปีที่แล้ว เราเคยนำเสนอข่าวเรื่องปัญหา "ใบสั่งตำรวจ" ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่มีการฟ้องร้องกันที่ศาลปกครองไป ไม่รู้ทำไมช่วงไม่กี่วันมานี้ เรื่องนี้ถูกนำกลับมาแชร์วนซ้ำอีกแล้ว แล้วสรุปต้องจ่าย หรือไม่ต้องจ่าย เราไปหาคำตอบมาให้แล้ว
คำสั่งจากศาลปกครอง ให้เพิกถอนประกาศของ สตช. ทั้ง 2 เรื่อง "กำหนดแบบใบสั่งแบบใหม่" และ "การกำหนดจำนวนค่าปรับฯ..." กรณีส่งใบแจ้งค่าปรับตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ทางไปรษณีย์ ที่ออกมาเมื่อ 20 กรกฎาคม 2563 ทั้งหมด เพราะเป็นการออกกฎโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นี่คือข้อความ ที่มีการแชร์กันในโซเชียล รายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง ตามความเข้าใจและการตีความของแต่ละคน แต่ใจความสรุปเหมือนกัน อ้างอิงจากภาพคำพิพากษาศาลปกครอง ว่าการส่งใบสั่งจราจรออนไลน์นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ย้ำว่าใบสั่งจราจรที่ส่งทางไปรษณีย์)
คุณอภิเอก ผู้สื่อข่าว สอบถามเรื่องนี้กับ พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำกับดูแลงานจราจร อัปเดตเรื่องนี้ให้ฟังว่า คดีตอนนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลปกครองกลาง ยังไม่มีคำพิพากษาออกมา ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมาย ยังคงมีผลตามเดิม ผู้ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ต้องปฎิบัติตาม ไปเสียค่าปรับต่อเจ้าพนักงาน ส่วนในอนาคตหากศาลปกครองสูงสุด ถึงจะมาว่ากันในรายละเอียดอีกที
ส่วนที่มาที่ไปว่าทำไมถึงมีการยื่นคำร้องไป แล้วศาลปกครองชั้นต้น พิพากษาให้เพิกถอนประกาศทั้ง 2 เรื่อง ก็เพราะ ผู้ร้องเห็นว่า "ผู้ถูกกล่าวหา" ควรมีสิทธิ์ได้ชี้แจงโต้แย้ง หากไม่ได้กระทำผิด ไม่เช่นนั้นจะขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 อีกทั้งการกำหนดค่าปรับไว้ล่วงหน้า ที่เป็นอัตราตายตัว ก็เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้ดุลยพินิจเปรียบเทียบปรับตามความเหมาะสมได้
จริง ๆ แล้ว ช่องทางการชี้แจง มีอยู่แล้ว อย่างในใบสั่งก็จะมีเขียนว่า สามารถแจ้งพนักงานสอบสวนได้ ภายใน 30 วัน เพื่ออธิบายว่าตนเองได้กระทำผิดตามที่ได้รับใบสั่งหรือไม่ แตกต่างจากใบสั่งจราจรปี 2560 ที่จะเขียนไว้ว่า หากต้องการปฏิเสธความผิด ให้ทำอย่างไรบ้าง นี่ก็เป็นอีกจุดที่มีการต่อสู้กันในชั้นศาล
แต่ให้สรุปตอนนี้ คือ ใบสั่ง ยังมีผลตามกฎหมาย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม จนกว่าจะมีกฎระเบียบ คำสั่ง เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
