ไฟไหม้วัดดังแม่สายเผาวอดพระแสนแช่โบราณ 800 ปี

ไฟไหม้วัดดังแม่สายเผาวอดพระแสนแช่โบราณ 800 ปี

View icon 389
วันที่ 15 ก.ค. 2567 | 10.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวพุทธสะเทือนใจ ไฟไหม้กุฏิวัดดังแม่สาย เผาวอดพระแสนแช่โบราณ 800 ปี เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้
    
เมื่อเวลาประมาณ 02.45 น. วันที่ 15 ก.ค.67 เกิดเหตุไฟไหม้กุฎิภายในวัดพรหมวิหาร ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระหว่างเกิดเหตุมีพระในวัด ได้พบเห็นกลุ่มควันที่เกิดจากไฟไหม้ จึงรีบแจ้งเจ้าอาวาส และได้แจ้งให้เทศบาลตำบลแม่สาย นำรถดับเพลิงออกไประงับเหตุ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ประเมินความเสียหายเฉพาะในส่วนของอาคาร คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท แต่ทรัพย์สินที่ถูกไฟไหม้ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
    
นายเกรียงไกร คำพลศักดิ์ กรรมการวัดพรหมวิหาร และกรรมการมูลนิธิพระครูพิทักษ์พรหมวิหาร เล่าว่า ได้รับแจ้งจากพระลูกวัด และช่างที่อยู่ในวัด จึงวิ่งมาดูและแจ้งดับเพลิง แต่ว่าไฟได้ลุกลามไปแล้ว ทำได้แค่เพียงสกัดให้อยู่ในวงแคบ ไฟไหม้ไหม้ไป 6 คูหา ส่วนประกอบทำจากไม้ประดู่ และไม้สัก ความเสียหายสำคัญมีพระแสนแช่โบราณ ส่วนสาเหตุต้องตรวจสอบอีกที รู้แต่เพียงว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องที่ใช้เป้นสำนักงานเจ้าคณะตำบล ซึ่งมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่
    
ทางด้าน พระครูวิบูลธรรมวิมล เจ้าคณะตำบลเวียงพางคำเขต 1 และเจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร เล่าว่า ไฟเริ่มไหม้จากห้องที่ใช้เป็นสำนักงาน ลุกไหม้ขยายเป็นวงกว้าง จนดับเพลิงมาฉีดน้ำดับไฟ อาคารที่ถูกไฟไหม้เดิมที่เรียกว่ากุฏิยาว สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 อาคารไม้สักและไม้ประดู่ ทำให้กลายเป็นเชื้อไฟเป็นอย่างดี ความเสียหายประเมินไม่ได้ เนื่องจากมีพระแสนแช่ อายุกว่า 800 ปีถูกไฟไหม้ด้วย นอกจากนั้นยังมีของโบราณ วัตถุมงคลอีกมากมายที่ถูกไฟไหม้ ส่วนสาเหตุอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเป็นห้องคอม อาจจะเปิดคอมเสียบคอมไว้
    
สำหรับวัดพรหมวิหาร เป็นวัดสังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ประมาณ 33 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2514 มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่สมัยที่ "หลวงพ่อตี๋" หรือพระครูพิทักษ์พรหมวิหาร เป็นเจ้าอาวาส เนื่องจากหลวงพ่อตี๋ เป็นพระเกจิที่มีลูกศิษย์ให้ความศรัทธาเป็นจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง