ห้องข่าวภาคเที่ยง - หัวอกคนเป็นแม่ มารู้ความจริงว่าลูกสาวพยายามจะฆ่าตัวตาย เพราะถูกข่มขืน หลังส่งข้อความสุดท้ายบอกรักแม่ หวังจบชีวิต โชคดีไปช่วยได้ทัน แต่ตอนนี้ลูกสาวต้องใส่เครื่องช่วยหายใจกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเอาผิดอีกฝ่ายเอง
แม่ เล่าเรื่องนี้ให้ฟังก่อนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางนา ว่า ลูกสาวแอบไปสักลายกับช่างสักคนหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าที่ไหน รู้แค่ว่าไม่ได้ไปสักที่ร้าน เป็นช่างสักที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ซึ่งเริ่มมาจากเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ช่างสักลายทักเฟซบุ๊กไปสอบถามผ่านเพื่อนลูกสาว ว่าสนใจจะสักลายให้ฟรีไหม ลูกสาวมีรูปทรงดี อยากให้มาเป็นแบบลายสัก ไม่คิดค่าใช้จ่าย
ตอนนั้น ลูกสาวเคยแอบมาสอบถาม แต่แม่ฟังแล้วไม่อนุญาต บอกว่าถ้าอยากสักให้สักได้แต่เป็นลายเล็ก ๆ และไม่ให้ไปตามลำพัง เพราะอันตราย ซึ่งลูกก็เงียบไป แล้วอยู่ดี ๆ ลูกสาวกลับส่งข้อความมา บอกรักตนเองมาก ตนเองรู้สึกผิดสังเกตเลยให้พ่อเลี้ยงไปดู ก็ไปเจอว่าลูกสาวผูกคอตัวเอง สลบไปได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงรีบเข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม แพทย์ยื้อชีวิตไว้ได้ก็จริง แต่ก็อยู่ในสภาพเป็นเจ้าหญิงนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ เพราะยากระตุ้นหัวใจ เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนไปนาน
ระหว่างนั้น แม่ ก็รวบรวมหาหลักฐาน ก็ไปเจอคลิปในโทรศัพท์มือถือ ทำให้รู้ว่าก่อนเกิดเหตุ มีคนรู้เห็นกับเรื่องการสักลาย 3 คน คือ ช่างสัก, รุ่นพี่ที่พาไปรับไปส่ง และผู้ชายอีกคนที่ไม่แน่ใจว่าใคร
นอกจากนี้ยังไปเจอหลักฐานแช็ตที่คุยกับเพื่อน บอกว่าตนเองถูกช่างสักลายข่มขืน จึงเชื่อว่าช่างสักลายคนนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้ลูกสาว พยายามจะฆ่าตัวตาย
มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เรื่องการแจ้งความ เพราะก่อนที่มาวันนี้ แม่ได้คุยกับตำรวจแล้วว่าจะแจ้งความเอาผิดอีกฝ่าย แต่ตำรวจขอให้รอผู้เสียหายหายดีก่อนค่อยมาแจ้งความ แต่ล่าสุดแม่ได้ยินจากปากหมอค่อนข้างชัดเจนแล้ว ว่าลูกไม่มีโอกาสฟื้น จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ซึ่งเรื่องนี้ทางตำรวจเอง ก็พร้อมรับทำคดีให้ เพียงแต่จะยากเรื่องการพิสูจน์ความจริง เพราะสุดท้ายแล้วพยานปากสำคัญ ก็ต้องเป็นผู้เสียหายอยู่ดี
