ตำรวจ ปปป. ร่วม ปปท. รวบนักบัญชี ซี 6 โกงเงินค่าเทอม 2 ภาษา รร.อนุบาลดังใน จ.นครสวรรค์ ร่วม 3 ล้าน หนีซุกเมืองเชียงใหม่
วันนี้ (16 ก.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปปป. นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. พร้อมทีมงาน ปปท.ภาค 6 และ ปปท.ส่วนกลาง นำหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.66/2566 จับกุมตัว น.ส.ศศิธร (สงวนนามสกุล) อดีตเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ระดับชำนาญงาน โรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์ โกงค่าเทอมกว่า 3 ล้านบาท โดยใช้วิธีเบิกใบเสร็จรับเงินจากฝ่ายพัสดุแล้วนำไปรับเงินค่าลงทะเบียนเรียนจากผู้ปกครองนักเรียนในโครงการห้องเรียนพิเศษสองภาษา ไปใช้เองโดยไม่นำส่งเป็นเงินรายได้ของโรงเรียน โดยเจ้าตัวรับสารภาพ ว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง
สำหรับพฤติการณ์ ด้วยผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีระดับชำนาญงานของโรงเรียนอนุบาลประจำ จ.นครสวรรค์ และเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินการบัญชีได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ จึงใช้โอกาสนี้และตำแหน่งหน้าที่ของตนเอง โกงเงินค่าเทอมที่ผู้ปกครองนำมาชำระให้กับโรงเรียนรวมถึงค่าบำรุงการศึกษาอื่น ๆ โดยเฉพาะในหลักสูตรพิเศษสองภาษา ซึ่งจะมีค่าบำรุงการศึกษาที่มากกว่าหลักสูตรปกติแต่ไม่เกิน 17,500 บาท ต่อภาคการศึกษา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเงินในส่วนนี้ ยังไม่ได้รวมไปถึงเงินบริจาคต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากค่าบำรุงการศึกษาดังกล่าว ที่ใช้เพื่อพัฒนาการของเด็กนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นช่องทางในการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายนี้ ให้เอาเงินไปใช้ซื้อรถ ซื้อบ้าน จนร่ำรวย
นอกจากนี้ยังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นของโรงเรียน กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ จนโดนจับได้ ถูกเรียกให้มีการชี้แจงบัญชี และคืนเงินบางส่วนไปแล้วประมาณ 200,000 บาท ต่อมาหลังจากถูกให้ออกจากราชการได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ โดยที่ยังไม่ได้ชดใช้เงินคืนให้ครบ หลบซ่อนประกอบอาชีพทั่วไปหารายได้ประทังชีวิต
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้ร่วมกันสืบสวนจนพบตัว จึงได้ทำการจับกุมในครั้งนี้ โดยกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงานและในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี โดยทุจริตและโดยมิชอบ โดยการเบิกใบเสร็จรับเงินจากฝ่ายพัสดุแล้วนำใบเสร็จรับเงินไปรับเงินจากผู้ปกครองนักเรียนในโครงการห้องเรียนพิเศษสองภาษา เมื่อผู้ถูกกล่าวหารับเงินค่าลงทะเบียนจากผู้ปกครองของนักเรียนแล้วกลับเบียดบังเงินค่าลงทะเบียนเรียนโครงการห้องเรียนพิเศษสองภาษาไว้เป็นประโยชน์ส่วนโดยไม่นำส่งเป็นเงินรายได้ของโรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์” ก่อนส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ศานุวงษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงโรงเรียนอนุบาลจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีอัตรากำลังพลของครูประมาณ 100 คน อัตราจ้างอีกประมาณ 100 คน และเด็กประมาณ 2,000 คน นับว่าเป็นโรงเรียนดังของจังหวัด และมีขนาดใหญ่ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นอย่างสูงจากผู้ปกครอง และยังมีสมาคมผู้ปกครองที่พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก ๆ ด้วย แต่ก็ยังมีเหตุในลักษณะนี้ขึ้นได้ จึงขอย้ำเตือนถึงพี่น้องประชาชนทั่วไปให้ทราบถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
นอกจากทางโรงเรียนจะได้รับความเสียหายในเรื่องของเงินบำรุงการศึกษาแล้ว ผู้ที่ได้รับความเสียหายอีกส่วนหนึ่งก็คือ “เด็กนักเรียน” ที่ควรจะได้รับความรู้และสวัสดิการอย่างเต็มที่ แต่กลับต้องอยู่ในระบบที่ไม่โปร่งใสและไม่สามารถตรวจสอบได้ และยังมีอีกหลากหลายประเด็นในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมจากค่าบำรุงการศึกษาที่อาจจะยังไม่มีการตรวจสอบอย่างชัดเจน จึงอยากให้ทางโรงเรียนทุกแห่งเคร่งครัดและช่วยกันสอดส่องการทุจริตภายใน และคัดสรรบุคลากรที่จะเป็นแม่พิมพ์ของชาติ และของเด็ก ๆ ต่อไปในอนาคตด้วย ซึ่งหากเกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก บก.ปปป. ก็ไม่อาจจะปล่อยให้ลอยนวลต่อไปได้