“คารม” ย้ำ กยศ.ไม่คิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ผู้กู้ยืมส่งตามระบบไม่เสียสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมายแน่นอน
จากกรณีที่สื่อออนไลน์ได้นำเสนอข่าวผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มีข้อสงสัยเกี่ยวกับยอดหนี้ที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect กับตารางผ่อนชำระ 15 ปี มีจำนวนไม่ตรงกันนั้น
วันนี้ (17ก.ค.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงว่า ตารางชำระหนี้ของผู้กู้ยืมได้กำหนดขึ้น หลังจากจบการศึกษาและปลอดหนี้ 2 ปีแล้ว ซึ่งยอดหนี้และอัตราการผ่อนชำระของผู้กู้ยืมแต่ละรายจะไม่เท่ากัน กำหนดผ่อนชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี
สำหรับอัตราการผ่อนชำระรายปีกำหนดให้แบ่งชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ดังนี้ ปีที่ 1 ชำระเงินต้น 1.5% ไม่มีดอกเบี้ย ปีที่ 2 ชำระเงินต้น 2.5% พร้อมดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นคงเหลือ และปีที่ 3 ชำระเงินต้น 3% พร้อมดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นคงเหลือ โดยจะชำระเป็นขั้นบันไดจนถึงปีที่ 15 (ปีสุดท้าย) จะชำระเงินต้น 13% พร้อมดอกเบี้ย 1% ของเงินต้นคงเหลือ
ดังนั้น กยศ. คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพียง 1% ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ส่วนกรณีที่ยอดรวมที่ต้องชำระมีจำนวนแตกต่างกับตารางที่กำหนดนั้น เกิดจากเหตุต่าง ๆ เช่น ความเข้าใจคลาดเคลื่อนและชำระเงินไม่ตรงตามกำหนดทำให้เกิดดอกเบี้ยค้างหรือเบี้ยปรับ ซึ่ง กยศ. ขอให้ชำระตามยอดรวมที่ต้องชำระที่ปรากฏในแอปพลิเคชัน กยศ. Connect
ส่วนดอกเบี้ยที่ผู้กู้ยืมมีข้อสงสัยว่าทำไมเพิ่มขึ้นรายวันนั้น ขอชี้แจงว่า หากเงินต้นจำนวน 200,000 บาท ดอกเบี้ย 1% ต่อปี จะเกิดดอกเบี้ยปีละ 2,000 บาท เมื่อคำนวณเป็นรายวัน จะเกิดดอกเบี้ย 5.48 บาทต่อวัน ทั้งนี้ ในระบบจะมีการคำนวณดอกเบี้ยเป็นรายวันจนกว่าผู้กู้ยืมจะชำระหนี้เสร็จสิ้น
ขณะนี้ กยศ. อยู่ในระหว่างการคำนวณภาระหนี้ย้อนหลังนับตั้งแต่วันเริ่มกู้จนถึงปัจจุบันให้กับผู้กู้ยืม 3.6 ล้านคน ซึ่งมีรายการคำนวณประมาณ 100 ล้านรายการ และเมื่อการคำนวณภาระหนี้ทั้งหมด ในระบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว กยศ. จะขึ้นระบบเพื่อทราบต่อไป และ ขอยืนยันว่าจะไม่มีใครเสียสิทธิ์อันพึงได้ ตามกฎหมายอย่างแน่นอน
