อธิบดีกรมประมง แจงน้ำท่วมทำต้นขั้ว “ปลาหมอสีคางดำ” หาย “หมอเก่ง ก้าวไกล” จ่อบุกกรมประมงตามล่าหาความจริง
วันนี้ (18ก.ค.67) ที่รัฐสภา ระหว่างประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอสีคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ที่มีนายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน ได้พิจารณาความเห็นและสาเหตุการระบาดของปลาหมอสีคางดำ โดยได้เชิญนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ตัวแทนนักวิชาการ สภาทนายความ และ ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบ ความเดือดร้อนแต่ละจังหวัดมาให้ข้อมูล ซึ่งบริษัทเอกชนเป็นหน่วยงานเดียวที่ไม่ได้ตอบรับเข้าร่วม
นายแพทย์วาโย ระบุว่า การจะหาต้นตอปลาหมอสีคางดำ ต้องตรวจรหัสทางพันธุกรรม จากบริษัทเอกชนที่นำเข้าพ่อแม่พันธุ์เมื่อปี 2553 เพื่อคลายความสงสัยและหาตัวผู้กระทำผิด แต่กลับได้รับคำชี้แจงจากอธิบดีกรมประมงว่า ตัวอย่างปลาจำนวน 25 ตัว และ สมุดต้นขั้วหายไปแล้ว เนื่องจากน้ำท่วม ทำให้นายแพทย์วาโย จะขอเข้าไปตรวจสอบที่กรมประมง ว่าถูกน้ำท่วมจริงหรือไม่ และ แม้ไม่มีปลาเป็นตัว แต่ยังมีตัวอย่างครีบปลา ที่นายแพทย์วาโย ทราบว่า กรมประมงเคยเก็บไว้ตามเงื่อนไข เมื่อครั้งอนุญาตให้นำเข้า จึงขอตัวอย่างนี้ ไปให้หลายหน่วยงานตรวจ DNA
ขณะที่ อธิบดีกรมประมง ยินดีให้คณะอนุฯ กรรมาธิการไปเยี่ยมที่กรมประมุง แต่ขอให้บอกล่วงหน้าจะได้เตรียมตัว ส่วนการวิจัยปลาตัวอย่างที่จะปล่อยไปผสมพันธุ์ เพื่อให้ออกลูกเป็นหมันนั้น ยังอยู่ระหว่างการทดลอง 3 ชุด เพื่อจะให้มีความเชื่อมั่นก่อน งบที่ว่า 150,000 บาท เป็นงบแค่น้ำยา เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์อื่นๆ มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ อธิบดีกรมประมง ยอมรับด้วยว่า เอกชน นำเข้าปลาหมอคางดำ 2,000 ตัว ผ่านด่านสุวรรณภูมิ ได้เรียกสมุดคุมแล้ว แต่ไม่มี ซึ่งบริษัทดังกล่าวอ้าวว่าส่งให้แล้ว จึงต้องกลับไปค้นหาที่ต้นทาง ไปดูที่ต้นทาง ถ้ามีก็ขอให้นำมาเปิดเผย ตอนนี้กรมประมงใช้งบประมาณป้องกันและเฝ้าระวังไปแล้ว กว่า 1 ล้านบาท และ ยังเตรียมของบประมาณ 181ล้านบาท เพื่อดำเนินการ 5 เรื่อง กำจัด ปล่อยปลานักล่า รณรงค์ให้มีการบริโภค สำรวจและรายงาน และ ประชาสัมพันธ์ แต่ยังไม่เห็นชอบงบประมาณ ซึ่งจะดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว
