ทดลองปิดถนนแปลงนามเห็นผล การจราจรเยาวราชคล่องตัวขึ้นทั้งรถและคน เล็งขยายผลปิดต่อเนื่อง ทางสำนักงานเขต ขอเวลา 7 วันทำประชาพิจารณ์ ก่อนสรุปผล
วานนี้ (20 ก.ค. 67) พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ลงพื้นที่ถนนแปลงนาม เขตสัมพันธวงศ์ ตรวจติดตามการทดลองปิดถนนแปลงนาม ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างถนนเยาวราชกับถนนเจริญกรุง
พล.ต.อ.อดิศร์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า การทดลองปิดถนนแปลงนามในครั้งนี้นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว โดยปิดถนนทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ในช่วงเวลา 19.00 – 24.00 น. ห้ามรถทุกชนิดเข้า ยกเว้นรถฉุกเฉิน
ซึ่งถนนแปลงนามเป็นถนนช่วงท้าย ๆ ที่จะเลี้ยวขวาจากเยาวราชไปเชื่อมถนนเจริญกรุงและสถานี MRT วัดมังกร ที่มีผู้โดยสารจาก MRT ใช้ถนนเส้นนี้มากที่สุดทั้งเข้าและออก
โดยตลอดการการทดลองปิดถนนพบว่าได้ผลดี การจราจรไหลลื่นมากขึ้นในช่องเลนขวา เมื่อดำเนินการปิดถนนไม่ให้เลี้ยวเข้าถนนแปลงนามซึ่งเปิดเดินรถทางเดียว โดยให้ไปเลี้ยวตรงแยกราชวงศ์ซึ่งห่างไปราว 300 เมตรแทน
นอกจากการจราจรจะดีขึ้นแล้ว ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินในเส้นทางนี้ยังชื่นชอบ เพราะไม่ต้องคอยระวังรถเฉี่ยวชนรวมถึงกลิ่นควันจากท่อไอเสีย
ทั้งนี้การทดลองสำหรับถนนแปลงนามก็เพื่อให้เป็นถนนสำหรับคนเดินเท้า เพราะร้านค้ามีอยู่แล้วแต่เดิม
โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า การทดลองปิดถนนแปลงนามนั้นทำให้เกิดผลดีใน 3 มิติคือ 1.การจราจรบนถนนคล่องตัวขึ้น การสัญจรทางเท้าลื่นไหลขึ้น 2.ลดอันตรายและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น 3.เศรษฐกิจกิจในย่านนี้ที่จะดีขึ้นเมื่อมีการจัดระเบียบเรื่องการจราจร
สำหรับการขยายผล นายวัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตได้ทำหนังสือถึง ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 แล้ว เพื่อขอปิดถนนแปลงนามและทางสน.ก็ดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวไปถึง บช.น.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทาง บช.น. ว่าจะอนุญาตหรือไม่ หากอนุญาตก็จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมาจากทางตำรวจอีกครั้ง ในระหว่างนี้ทางสำนักงานเขตก็จะมีการทำประชาพิจารณ์อีกครั้งโดยใช้ระยะเวลาราว 7 วัน ก่อนจะสรุปผลประเมินส่งไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ การทดลองปิดถนนแปลงนามในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ยังคงดำเนินต่อไปตามเวลาที่กำหนด
