ภาพแรกเสือโคร่ง "บะลาโกล" หลังปล่อยกลับสู่ธรรมชาติที่ ป่าทับลาน ซึ่งเป็นการปรากฏตัวในป่าธรรมชาติเป็นครั้งแรก หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่หลายวิธีพบเจอเพียงร่องรอย และเศษสัตว์ที่ตกเป็นอาหารของ "บะลาโกล"
วันนี้ (23 ก.ค. 67) หลังจากปล่อยเสือโคร่ง “บะลาโกล” คืนสู่ธรรมชาติ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการติดตามหลังการปล่อยโดยสถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่นั้นได้ใช้หลายวิธีในขั้นตอนการติดตาม เช่น การติดตั้งกล้องดักถ่ายในพื้นที่ การติดตั้งกล้องติดตามแบบ real time และการติดตามสัญญาณผ่านปลอกคอทั้งแบบใช้ข้อมูลดาวเทียม และการใช้คลื่นความถี่ VHF ในการตามหาตัว รวมถึงการสำรวจร่องรอย
โดยมีการพบเจอร่องรอย และเศษชิ้นส่วนของสัตว์ที่เป็นอาหารของ “บะลาโกล” ทำให้เชื่อได้ว่า “บะลาโกล” นั้นสามารถล่าหาอาหารในสภาพธรรมชาติได้ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จก้าวแรกของการดำรงชีวิตในป่า แต่สำหรับความสำเร็จในก้าวต่อไปนั้น คงต้องใช้เวลา ซึ่งขณะนี้ “บะลาโกล” ยังอยู่ในช่วงของการสร้างการเจริญเติบโตทั้งขนาดของร่างกายและพัฒนาการทางระบบการสืบพันธุ์ ซึ่งผลสำเร็จของการปล่อยคืนสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่กลับสู้ธรรมชาตินั้นจะพิจารณาได้จาก การล่าหาอาหารกินได้เองตามธรรมชาติ การตั้งถิ่นฐานเพื่ออาศัยและหากิน การสามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับมนุษย์ และท้ายสุดสัตว์ป่าที่ปล่อยคืนนั้นสามารถสืบพันธุ์ต่อได้
ขณะนี้ “บะลาโกล” ถือว่ายังอยู่ห่างคำว่าสำเร็จอีกหลายช่วงตัว แต่อย่างไรก็ดี ล่าสุดนั้นมีข้อมูลภาพถ่ายที่ได้มาจากการทำงานขององค์กรอิสระ Freeland ที่ทำให้ได้เห็นการปรากฏตัวในป่าธรรมชาติเป็นครั้งแรกหลังจากปล่อย “บะลาโกล” คืนสู่ธรรมชาติ หากในอนาคต “บะลาโกล” ดำเนินชีวิตได้จนแตะความสำเร็จที่ว่าไว้ มันก็คือความสำเร็จของการดำเนินการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งครั้งแรกของไทย แต่ถ้าไม่บรรลุจุดหมายปลายทางก็ยังนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของมนุษย์ในการพยายามกอบกู้สถานการณ์ประชากรเสือโคร่งไทย
ทั้งนี้ “บะลาโกล” เป็นเสือโคร่งที่เกิดในป่าธรรมชาติ แต่เข้าใกล้ชุมชนจนจะกลายเป็นปัญหาของชาวบ้านที่อาศัยใกล้เคียงพื้นที่ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 จึงเข้าระงับปัญหาด้วยการจับเคลื่อนย้ายให้ออกห่างจากชุมชนไปที่ “ป่าทับลาน” ซึ่งคือส่วนหนึ่งของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ เนื่องจากมีความ
