ปมเหตุยิง 4 ศพ จากเหตุฟ้องร้องไปมา

View icon 3.4K
วันที่ 23 ก.ค. 2567 | 11.13 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ข่าวใหญ่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือข่าวยิง 4 ศพ ครอบครัว ผอ.โรงเรียนในจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนคนที่ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นอดีตสามีคนที่ 3 ของ ผอ.หญิงคนนี้ ปมเหตุมาจากพิษรักแรกหึง มาจากเรื่องอะไรบ้างเดี๋ยวเราไปไล่กันดู

เราย้อนเหตุการณ์กันก่อน เมื่อคืนตอนประมาณ 21.00 น. อดีตสามีคนที่ 3 ซึ่งเป็นอดีต ผอ.โรงเรียนในจังหวัดบุรีรัมย์ ถือปืนลูกซองยาวเข้าไปในบ้านของอดีตภรรยา ซึ่งเป็น ผอ.โรงเรียนในจังหวัดศรีสะเกษ แล้วก่อเหตุยิงรวดเดียว 4 ศพ 2 ศพนอกบ้าน อีก 2 ศพในบ้าน

คนแรกที่ถูกยิงเป็นตัว ผอ., คนที่ 2 เป็นสามีใหม่ของ ผอ.ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ, คนที่ 3 เป็นแม่ของ ผอ. และคนที่ 4 น้องเขยของแม่ ผอ. ส่วนคนที่รอดชีวิตเป็นเด็กชาย อายุ 10 ขวบ หนีออกจากบ้านหลังได้ยินเสียงปืน วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากญาติ

หลังก่อเหตุ อดีต ผอ.คนนี้ ก็ขับรถหลบหนีเข้าไปในพื้นที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีตำรวจไล่ติดตามไปอย่างกระชันชิด เมื่อถึงตู้ยามพิณทอง ผู้ก่อเหตุหยุดรถ ตำรวจพยายามบอกให้ อดีต ผอ. ผู้ก่อเหตุ ลงจากรถมามอบตัว ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุสลดขึ้น

อดีต ผอ.ใช้ปืนลูกซองยาวจบชีวิตตัวเองหนีความผิด ยิงหน้าอกซ้ายกระสุนทะลุกระจกเสียชีวิตทันที หลังเกิดเหตุพ่อของอดีต ผอ. อายุ 78 ปี เดินทางไปดูศพลูกชาย ด้วยอาการเครียดจนเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล

ส่วนปมเหตุุเรามาไล่เลียงกันอย่างนี้ แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดมาจากพิษรักแรงหึง เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงคบหากันแล้วอยู่ด้วยกัน โดยฝ่ายชายไปกู้ยืมเงินมาสร้างบ้าน อยู่อาศัยกับฝ่ายหญิง ต่อมาทั้งคู่เลิกรากัน

กลาง ปี 2565 ฝ่ายชายไปทำใบปลิวให้ร้ายฝ่ายหญิงว่า "มีหลายสามี ทำตัวไม่เหมาะสม" นำไปเสียบไว้ตามบ้านในหมู่บ้าน 100 ใบ

ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ให้ทนายความซึ่งในอนาคตคนนี้คือสามีใหม่คนที่ 4 ที่เสียชีวิต ไปห้องศาลฯ คดีหมิ่นประมาทฯ เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท คือใบปลิว 1 ใบ เท่ากับ 100,000 บาท 100 ใบ ก็ 10 ล้านบาท ศาลฯ นัดไต่สวนวันที่ 22-23 ส.ค.นี้

จากนั้นก็นำเรื่องใบปลิวนี้ไปร้องทุกข์กับต้นสังกัด กล่าวหาฝ่ายชาย มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็น ผอ.โรงเรียน เรื่องยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ฝ่ายชายก็เอาคืนบ้าง ไปฟ้องฝ่ายหญิง เรื่องครอบครองปรปักษ์ โดยใช้หลักฐานการกู้ยืมเงินมาสร้างบ้านอยู่ด้วยกัน

แต่ปมสุดท้ายน่าจะเป็นเหตุให้ฝ่ายชายโกรธแค้นที่สุด ฝ่ายหญิงให้ทนายความเขียนคำร้องฟ้องหย่า และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลฯ พิพากษาให้บ้านตกเป็นของฝ่ายหญิง จากนั้นทนายความที่บอกว่าเป็นสามีคนที่ 4 ก็แต่งงานอยู่กินกับฝ่ายหญิง ได้ 2 เดือน 

ส่วนฝ่ายชายยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ผอ. เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ขณะที่เช้าวันนี้ ชาวบ้านไปช่วยกันกางเต็นท์ เตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพที่จะกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหอยพัฒนา แต่ยังไม่รู้ว่าทางนิติเวชจะปล่อยศพให้กลับมาได้เมื่อใด คาดว่าอาจจะเป็นช่วงบ่ายวันนี้ หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ รอทางโรงพยาบาลศรีสะเกษแจ้งมาอีกครั้ง 

ผู้สื่อข่าวเราได้พูดคุยกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ นั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องนี้ในลานวัด ส่วนใหญ่รับรู้รับทราบว่า ครอบครัวนี้มีปัญหากันมาตลอด ตั้งแต่สมัยรักกันดี จนเลิกรากัน ได้มีการฟ้องร้องกันในเรื่องการครอบครองบ้านดังกล่าว และฟ้องหมิ่นประมาทกันไปมา จนอาจเป็นชนวนเหตุที่เกิดขึ้น

ส่วนลูกชายที่เราบอกว่ารอดชีวิต ตอนเกิดเหตุอยู่ในห้องน้ำ พอออกมาเจอแม่เสียชีวิตก็รีบวิ่งไปหาญาติ ลูกคนนี้เป็นลูกของสามีคนที่ 2 ที่เป็นตำรวจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง