เครียดถูกซ่อนกล้องแอบถ่ายในห้องพัก ชาย LGBTQ ตัดสินใจโดดสะพานภูมิพล 2 แต่รอดตาย ลอยไปติดบันไดท่าน้ำ
วันนี้ (23 ก.ค.67) ร.ต.อ.วิทยา นามทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีคนกระโดดสะพานภูมิพล ทิศทางด้านขาขึ้นจากถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้า ลงถนนปู่เจ้าสมิงพราย จึงประสานสายตรวจพร้อมกำลังอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รีบรุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่กลางสะพานภูมิพล 2 พบ เจ้าหน้าที่สายตรวจ รปภ.บนสะพาน กำลังตรวจตราดูความเรียบร้อยบนสะพานภูมิพล หลังได้รับแจ้งเหตุ และพบรองเท้าแตะ หมวกแก๊ปสีขาว วางอยู่ที่พื้น มีรถจักรยานยนต์สีเหลืองจอดทิ้งไว้บนสะพาน ที่หน้าปัดรถมีแผ่นกระดาษเป็นบัตรนัดของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเสียบไว้ มีข้อความเขียนด้วยลายมือเป็นจดหมายสั่งลา เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปพร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน และนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.พระประแดง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อขอนักประดาน้ำมาช่วยค้นหาผู้สูญหาย แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาน้ำขึ้น กระแสน้ำมีความเชี่ยวกราดมาก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงไปค้นหาได้ จำเป็นต้องยกเลิกการค้นหาไปก่อน โดยหลังจากเจ้าหน้าที่แยกย้ายกันได้ไม่นาน มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับจุดเกิดเหตุ มีอาการตื่นตระหนก วิ่งออกมาจากบ้าน ผู้สื่อข่าวเห็นผิดสังเกต จึงขออนุญาตเข้าไปตรวจสอบ พบคนลอยน้ำเป็นชาย สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ซึ่งยังมีลมหายใจอยู่ ลอยติดอยู่ที่บันไดท่าน้ำของบ้านหลังดังกล่าว จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบ
สอบถาม ผู้ที่ลอยน้ำมาติดบันไดท่าน้ำ ทราบว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับที่กระโดดจากสะพานภูมิพล ชื่อนายเอกพงษ์ อายุ 41 ปี โดยหลังกระโดดสะพานได้จมน้ำไปอย่างไรไม่ทราบนัก แต่เห็นเงาสีดำคล้ายคนรูปร่างใหญ่ และมีเส้นใยสีดำจำนวนมาก อยู่บริเวณลูกกรงบันได พยายามไต่มาหาตนที่ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ตนรู้สึกหวาดกลัว จึงร้องขอความช่วยเหลือ กระทั่งมีคนเข้ามาพบ และนำขึ้นมาจากแม่น้ำ ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจกระโดดน้ำในครั้งนี้ เกิดจากภาวะกดดัน ซึ่งตนเป็น LGBTQ อยู่ห้องพักคนเดียว โดยห้องที่ตนพักอาศัยอยู่ถูกเจาะรูซ่อนกล้องแอบถ่าย และสัญญาณบลูทูธ เพื่อแอบดูตน
ด้าน เจ้าของบ้านที่พบคนกระโดดน้ำ ว่ายลอยมาติด เล่าให้ฟังว่า ลูกชายตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงคนร้องว่า ช่วยด้วย ช่วยด้วยลักษณะคล้ายคนละเมอ ตนจึงมาหาต้นเสียง แต่หาไม่เจอ เนื่องจากค่อนข้างมืด ลูกชายจึงเอาไฟฉายมาส่องดู เจอคน จึงตกใจมาก สั่นไปหมดทั้งตัว ยังดีที่เขามีสติ ถามตอบรู้เรื่อง ตอนแรกตนไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวกระโดดสะพานลงมา ก่อนหน้านี้ บ้านตนก็เคยเกิดเหตุการณ์คนกระโดดสะพานลงมาแล้วรอดชีวิตมาติดท่าน้ำแบบนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำอักครั้ง และได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำ นายเอกพงศ์ ส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3 เพื่อรักษาตัวให้ปลอดภัย อย่างเร่งด่วนก่อน
