ให้ประกันตัว 2 ตำรวจ แก๊งปล้นเงินจีนเทา

View icon 94
วันที่ 24 ก.ค. 2567 | 11.13 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจเร่งล่า 3 พลเรือนร่วมแก๊งตำรวจรีดเงินจีนเทา 700,000 บาท บนถนนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าพัทยา ขณะตำรวจ 2 นายที่เข้ามอบตัวเมื่อวานนี้ ได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน

ความคืบหน้า คดีแก๊งตำรวจรีดเงินกลุ่มจีนเทา 700,000 บาท บนถนนมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าพัทยา จังหวัดชลบุรี หลังเมื่อวานนี้ตำรวจ สภ.หนองปรือ ออกหมายจับตำรวจ 2 นาย และพลเรือนอีก 3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุคดีนี้ ต่อมาสิบตำรวจเอกฐิติวัตร สังกัดตำรวจภูธร ภาค 2 และร้อยตำรวจตรีประเดิม รองสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน

พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำตำรวจทั้ง 2 นายอย่างเครียดกว่า 2 ชั่วโมง เบื้องต้นทั้ง 2 ยอมรับว่า ได้เข้าไปตรวจค้นชาวจีนในวันเกิดเหตุจริง แต่เป็นการไปตรวจค้นผู้ต้องสงสัยตามปกติ และปฏิเสธรีดเงิน 700,000 บาท หลังสอบปากคำเสร็จ ตำรวจทั้ง 2 นายได้ยื่นหลักทรัพย์คนละ 400,000 บาท ประกันตัวไปในชั้นสอบสวน ตำรวจได้ให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามามอบตัวเอง

สำหรับประวัติตำรวจทั้ง 2 นาย พบว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง จนโดนย้ายออกจากพื้นที่ แต่ทำเรื่องขอกลับเข้ามาใหม่ เบื้องต้นผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.สืบภาค 2 และให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตามขั้นตอน รอผลว่ากรรมการจะพิจารณาให้พักราชการ หรือให้ออกจากราชการ

ขณะที่ทีมข่าวสอบถามเรื่องนี้กับ พันตำรวจเอก ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผู้กับการการ 5 กองบังคับการปราบปราม ต้นสังกัดของ ร้อยตำรวจตรี ประเดิม หนึ่งใน 2 ผู้ต้องหาในคดีนี้ บอกว่า อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอผู้บังคับบัญชา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย เนื่องจากเป็นความผิดของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับ 2 หน่วยงาน คือ กองบังคับการปราบปราม และ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 โดยจะเร่งดำเนินการส่งเรื่องภายในวันนี้ ส่วนจะต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณาเช่นเดียวกัน

ส่วนที่ว่า ร้อยตำรวจตรี ประเดิม ได้เรียกรับทรัพย์จริงหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องยังไม่ได้เรียกเจ้าตัวมาพูดคุย แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ยึดตามพยานหลักฐาน และข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ถ้าผลการสอบสวนพบมีการเรียกรับเงินจริง โทษสูงสุดคือไล่ออก และก็จะถูกดำเนินคดีทางอาญาด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง