สนามข่าว 7 สี - ได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจ ตม. จับกุมหญิงชาวจีนไปสอบสวน เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้ว่าจ้างติดป้ายโฆษณากลางสี่แยกห้วยขวางว่าจริง ๆ แล้ว แฟนหนุ่มของเธอก็เกี่ยวข้องด้วย เลยต้องล็อกตัวไปสอบสวนดำเนินคดี
หลักฐานสำคัญที่ทำให้ตำรวจไปเจอความเชื่อมโยงก็คือ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่อยู่บนป้ายโฆษณา ที่มีปัญหาเพราะตรวจสอบการใช้สัญญาณโทรศัพท์ไปแล้ว พบว่ามีการใช้สัญญาณที่เดียวกันอยู่เกือบตลอด เสมือนว่าอยู่ด้วยกัน ทำให้ตำรวจเชื่อมโยงได้ว่า นายฉิน หลิน (Mr.QIN LIN) ผู้เป็นสามี เกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย ก่อนจะสืบสวนขยายผลไปพบว่า เป็นคนโอนเงินให้ภรรยาไปว่าจ้างทำป้ายโฆษณาชวนซื้อพาสปอร์ตให้ไปดำเนินการ
ซึ่งต่อมา ตำรวจสืบสวน สตม.พบว่า นายฉิน หลิง กำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงไปควบคุมตัว พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแล้ว จากนั้นได้นำตัวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างผลักดันออกนอกราชอาณาจักร
สำหรับคดีนี้ นางสาว นา ซู (Ms.NA XU) หญิงชาวจีนภรรยานายฉิน หลิน ยอมรับกับตำรวจไปแล้วว่า ได้นำโทรศัพท์มือถือของนายฉิน หลิง สามี ไปใช้ เพื่อติดต่อกับลูกค้าที่จะมาใช้บริการทำหนังสือเดินทางตามที่ประกาศไว้บนป้ายโฆษณา แต่ยังไม่มีลูกค้าติดต่อมาแต่อย่างใด โดยได้รับงานมาจากบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกงผ่านแอปพลิเคชันของจีน ให้ทำป้ายรับจ้างทำพาสปอร์ตไปติดตั้งที่แยกห้วยขวาง โดยมีค่าดำเนินการค่าจ้างเช่าติดตั้งป้าย เดือนละ 150,000 บาท ค่าทำป้าย 60,000 บาท แล้วจะได้ค่านายหน้าป้ายละ 500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 17,000 บาท ซึ่งหลักจากที่ดำเนินคดีฐาน "เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน" ไปแล้ว ก็ได้ผลักดันให้ออกนอกประเทศ พร้อมพิจารณาขึ้นแบล็กลิสต์ไว้ แต่สุดท้ายก็ต้องถูกเรียกตัวกลับมา เพราะเจอว่าสามีเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วย ส่วนจุดประสงค์ที่แท้จริงจากการทำป้ายโฆษณาชวนซื้อพาสปอร์ตเพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจของ สามี-ภรรยาคู่นี้ หรือ ทำเพราะถูกว่าจ้างจากเครือข่ายธุรกิจอีกที คงต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจเพิ่มเติม
