คดีแขวนป้ายขายพาสปอร์ต ลงระบบแบล็กลิตส์ ผลักดันออกนอกประเทศ หลังพบนายซิน หลิง มีหมายจับจีนข้อหาสำคัญ ส่วน ซู น่า ภรรยา โดนโทษจำคุก 4 เดือน ฐานเป็นต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต
ความคืบหน้าคดีแก๊งจีนขายพาสปอร์ต วานนี้ (24 ก.ค. 67) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และพล.ต.ท.ฐิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน บก.สส.สตม. และชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ร่วมสืบสวนขยายผล กรณีมีผู้ติดตั้งป้ายโฆษณาภาษาจีนที่บริเวณแยกห้วยขวาง กรุงเทพ จากการสืบสวนพบว่า มีผู้ที่เกี่ยวข้องคือ นายซิน หลิง (MR.QIN LIN) อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเป็นสามีของ นางซู น่า (MRS.XU NA) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน จากการสืบสวนทราบว่า นายซิน หลิง เป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศจีน ในข้อหา ซื้อขายบัตรประจำตัว และเป็นบุคคลที่ทางการประเทศจีนต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี ชุดสืบสวน สตม. จึงได้ทำการลงระบบเฝ้าระวังของ สตม. และขออนุมัติเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของ นายซิน หลิง ไว้แล้ว
ในส่วนของนางซู น่า พนักงานสอบสวนได้นำตัวส่งฟ้องดำเนินคดีต่อ ศาลแขวงพระนครเหนือ ในข้อหา "เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน" ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษา ลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 1 ปี ตามคดีดำที่ อ.4242/2567 คดีแดงที่ อ.4259/2567 จากนั้นจึงได้ทำการลงระบบบุคคลต้องห้ามของ สตม. (Blacklist) ห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ส่วนนายซิน หลิง ขณะนี้อยู่ระหว่างผลักดันออกนอกราชอาณาจักร
สำหรับคดีนี้ ตำรวจตรวจพบว่า นายซิน หลิง กำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรทางช่องทาง ท่าอากาศยานดอนเมือง ชุดสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบ พบนายซิน หลิง จึงได้แจ้งให้ นายซิน หลิง ทราบว่า ถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแล้ว จากนั้นจึงได้นำตัว นายซิน หลิง ส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป จากการตรวจสอบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในโทรศัพท์ของนายซิน หลิง พบว่ามีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ประกาศบนป้ายโฆษณาภาษาจีนที่บริเวณแยกห้วยขวาง กรุงเทพ อีกทั้งจากการซักถามปากคำ นางซู น่า รับว่าได้นำโทรศัพท์มือถือของนายซิน หลิง สามี ไปใช้ เพื่อเตรียมตัวติดต่อกับลูกค้าที่จะมาใช้บริการทำหนังสือเดินทางตามที่ประกาศไว้บนป้ายโฆษณา แต่ยังไม่มีลูกค้าติดต่อมาแต่อย่างใด