รวบคู่รัก Sex Creator ผู้ติดตามกว่า 400,000 คน

รวบคู่รัก Sex Creator ผู้ติดตามกว่า 400,000 คน

View icon 286
วันที่ 25 ก.ค. 2567 | 13.46 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบคู่รักคาบ้าน ผลิตคอนเทนต์ร่วมรักเพื่อการค้า ผ่านพลตฟอร์ม X ต้องเสียค่าสมัครสมาชิก มีผู้ติดตามกว่า 400,000 คน รายได้เดือนละ 30,000-50,000 บาท

วันนี้ (25 ก.ค. 67) เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับสืบ Top G จับกุม น.ส.วิชาดา อายุ 22 ปี  และนายสุรศักดิ์ อายุ 27 ปี ที่บริเวณห้องนอนชั้น 3 ภายในบ้านซอยรามคำแหง 54 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ถ่ายทำสื่อลามกฯ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค. 67) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส3 บก.สส.บช.น ได้พบประกาศขายสื่อลามกอนาจารผ่านแพลตฟอร์ม X ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 400,000 บัญชี ต่อมา สายลับติดต่อผู้ใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อสอบถามหากสนใจต้องทำอย่างไร และให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร จากนั้น สายลับได้โอนเงิน 699 บาท และบัญชีผู้ใช้ X ได้อนุมัติให้เข้าติดตาม บัญชี X ซึ่งเป็นบัญชีส่วนตัว และพบว่าเจ้าของบัญชี X ร่วมกับผู้อื่นในการผลิตและถ่ายทำวิดีโอลามกอนาจาร ซึ่งมีภาพสื่อลามกอนาจารจำนวนมาก

ต่อมา ศาลอาญาได้อนุมัติหมายค้นที่ 708/2567 ลงวันที่ 23 ก.ค.2567 ให้ตรวจค้นบ้านที่พักอาศัยของเจ้าของบัญชี “X” เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นภายในห้องนอนชั้น 3 ของบ้าน โดย น.ส.วิชาดา และ นายสุรศักดิ์ ยินยอมสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น และผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้าที่ใช้ถ่ายทำวิดีโอลามกอนาจาร ซึ่งเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี

โดยทั้ง น.ส.วิชาดา และ นายสุรศักดิ์ รับว่าเป็นบุคคลในคลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบในโทรศัพท์มือถือ และในบัญชี X ดังกล่าวจริง โดย น.ส.วิชาดา และ นายสุรศักดิ์ รับว่าได้ร่วมกันผลิตและถ่ายทำวิดีโอลามกอนาจารที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบ จากพฤติการณ์และพยานหลักฐานข้างต้น เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแจ้งข้อหา “ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้,เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก,ผลิต มีไว้ซึ่งสื่อลามกเพื่อการค้าเพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน,ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น” และได้แจ้งสิทธิ์ของผู้ต้องหาทั้งสองให้ทราบ ทั้งสองทราบและเข้าใจให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้จัดทำบันทึกตรวจค้น/ตรวจยึด/จับกุม พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาทั้งสอง นางสาววิชาดา เดิมมีอาชีพรับจ้างถ่ายแบบและเป็นอินฟลูฯ ใน TikTok และมีผู้ติดตามอยู่จำนวนหนึ่งอยู่แล้ว จนเมื่อประมาณปี 2565 ได้มีผู้ติดตามของตนเชียร์ให้เปิดแอคล็อค (Sex Contents) ผ่านแพลตฟอร์ม Twitter หรือ X นางสาววิชาดาฯ จึงได้ผันตัวมาเป็น Sex Creator โดยในช่วงแรกนั้น นางสาววิชาดา ทำในลักษณะสำเร็จความใคร่เพียงคนเดียว ต่อมาไม่นานได้คบหากับ นายสุรศักดิ์ ทั้งสองคนจึงเริ่มที่จะทำ Content ด้วยกัน โดยอัดคลิปวิดิโอขณะมีเพศสัมพันธ์ของตนเองลงในแอคเคาท์ของนางสาววิชาดา บนแพลตฟอร์ม Twitter หรือ X โดยใช้วิธีเก็บค่าสมาชิก โดยมีรายได้ต่อเดือน 30,000 - 50,000 บาท บางเดือนอาจสูงถึง 70,000 บาท

ทั้งสองยังให้ข้อคิดว่า เรื่องที่ทั้งสองทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ควรทำตาม และไม่อยากให้คนอื่นทำผิดเหมือนตน โดยทั้งสองยังบอกอีกว่าปัจจุบัน พบว่ามีสื่อลามกเกี่ยวกับเด็กอายุไม่ถึง 20 ปีเพิ่มขึ้นมาก และมีเด็กอายุ 14-16 มาขอร่วมงานกับทั้งสอง แต่ก็ต้องปฏิเสธไปเนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งยังมีการว่าจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติดหรือพนันออนไลน์ ซึ่งทั้งสองก็ปฏิเสธไปเนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน สุดท้ายทั้งสองรับว่าหากจบเรื่องนี้จะขอไปทำงานที่ถูกต้อง และยังฝากอีกว่าไม่นึกว่าจะถูกสืบนครบาลจับ เพราะทั้งสองก็เป็นแฟนคลับสืบนครบาลเช่นกัน

ทั้งนี้ ทาง พล.ต.ต.ธีรเดช อยากฝากไว้ว่า สำหรับประเทศไทย กฎหมายได้บัญญัติไว้ว่ากการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอย่างชัดเจน จึงขอให้เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายด้วย กรณีผู้ที่ปรากฏในสื่อลามกเป็นผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป) เพื่อประสงค์แห่งการค้าฯ นำเข้า ผลิต เผยแพร่สื่อลามกอนาจารฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 287(1) และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง