ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางร้านที่จังหวัดพัทลุง เจ้าของร้านใจเด็ด บุกล็อกคอจนสิ้นฤทธิ์
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ เดินเข้ามาในร้านทอง พร้อมควักปืนออกมาขู่ พอเดินมาถึงตู้โชว์ทองคำ คนร้ายเก็บปืนใส่กระเป๋า แล้วหยิบขวานออกมาทุบตู้กระจกโชว์ทองจนแตก หยิบสร้อยทองไปได้เพียง 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท ระหว่างนั้นเจ้าของร้านใจเด็ด วิ่งเข้าล็อกคอแล้วกดตัวลงกับพื้น ก่อนพนักงานคนอื่น ๆ จะวิ่งเข้ามาช่วยกันจับตัวไว้ได้
ขณะที่กล้องวงจรปิดด้านนอกร้าน จะเห็นว่าขณะเกิดเหตุ ลูกค้าคนอื่น ๆ พากันวิ่งหนีกระเจิงกันออกมา เหตุเกิดช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ย่านตลาดสดเขตเทศบาลเมืองพัทลุง
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง เข้าควบคุมตัวคนร้าย ทราบชื่อคือ นายเจม ให้การอ้างตัวว่าเป็นอดีตตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และถูกไล่ออกจากราชการ แต่ยังไม่ให้การอะไรมากนัก โดยพบว่าก่อนก่อเหตุ นายเจมได้ขี่รถจักรยานยนต์มาวนหน้าร้านทอง แล้วเอารถจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ที่วัดใกล้ร้านทอง ก่อนมีรถเก๋งมารับไปส่งที่ร้านทอง และก่อเหตุดังกล่าว
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และเป็นคนเข้าช่วยจับคนร้าย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเดินผ่านหน้าร้านทองพอดี เห็นคนร้ายกำลังทุบตู้กระจกทอง และเจ้าของร้านได้วิ่งเข้าล็อกตัว ตนจึงวิ่งเข้าไปช่วย
ต่อมาตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บหลักฐานบริเวณร้านทองดังกล่าว โดยอุปกรณ์การก่อเหตุ มีค้อน ขวาน และอาวุธปืนบีบีกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ได้เก็บลายนิ้วมือแฝง ควบคุมตัวผู้ต้องมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองพัทลุง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ต้องหาว่ามูลเหตุที่ก่อเหตุขึ้นเพราะอะไร แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมพูดอะไร
ด้าน พลตำรวจตรี ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรพัทลุง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง ในเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การอ้างว่า ตัวเองนั้นเป็นอดีตตำรวจที่ถูกไล่ออก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เช็กประวัติชื่อคนก่อเหตุ พบเป็นตำรวจจริง แต่ใบหน้าไม่เหมือนกัน ก่อนรับสารภาพว่าไม่ใช่ จริง ๆ แล้วตนเองชื่อ นายวรวิทย์ ชูด้วง อายุ 28 ปี ไม่ใช่ตำรวจแต่อย่างใด ส่วนมูลเหตุในเบื้องต้นยังไม่ยอมให้การใด ๆ
สอบถาม นายสมพงษ์ เก้าเยี่ยน อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน ช่วงเกิดเหตุมีลูกค้าคนอื่น ๆ กำลังขอเลือกดูทองคำ และตนก็กำลังหยิบทองขึ้นมา กระทั่งหันไปเห็นคนร้ายกำลังชักปืนออกมา แต่จากที่เห็นคาดว่าน่าจะเป็นปืนปลอม จึงตัดสินใจวิ่งเข้าล็อกคอจนจับตัวได้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว
ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหา เพื่อขยายผลจับตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่ขับรถเก๋งมาส่งต่อไป