เปิดหลักฐานใหม่ มัดอธิบดีผู้พิพากษาศาลฯ หื่น

View icon 2.7K
วันที่ 26 ก.ค. 2567 | 11.24 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ยังจำข่าวอธิบดีผู้พิพากษาศาลฯ รายหนึ่งถูกย้ายจากตำแหน่ง เพราะมีเรื่องฉาวพยายามล่วงละเมิดทางเพศเจ้าหน้าที่สาวบนรถไฟได้ไหม ห้องข่าวภาคเที่ยงของเรานำเสนอต่อเนื่องว่า ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ล่าสุดในชั้นสอบสวนพบหลักฐานเพิ่มเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบนรถไฟในวันเกิดเหตุ

เปิดหลักฐานใหม่ มัดอธิบดีผู้พิพากษาศาลฯ หื่น
ภาพที่คุณผู้ชมเห็นอยู่นี้เราย้อนให้ดูถึงร่องรอยฟกช้ำของผู้เสียหาย จากการขัดขืนต่อสู้ หลังผู้ก่อเหตุย่องเข้าห้องเธอถึงสองครั้ง พยายามทำมิดีมิร้าย แต่ไม่สำเร็จ และเป็นหนึ่งในหลักฐานที่เธอนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ไปแจ้งความกับกองบังคับการกองปราบปรามเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด 2 วันที่แล้ว คือวันที่ 24 กรกฎาคม เธอเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง โดยพนักงานสอบสวนได้ให้ไปชี้ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นขบวนตู้รถนอนชั้นสอง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขณะจอดพักที่สถานีกลางบางซื่อ พร้อมนำผู้เชี่ยวชาญกู้ภาพวงจรปิดบนขบวนรถไฟในวันเกิดเหตุด้วย ปรากฏว่าต้องบอกตำรวจไทยนี่เก่งจริง ๆ เพราะภาพที่ถูกลบทับไปทุก 15 วัน กู้กลับมาได้ โดยมีภาพบันทึกสามเหตุการณ์สำคัญไว้ได้จากวงจรปิดสองตัว

จุดแรกเป็นห้องเสบียงจะเห็นภาพผู้ก่อเหตุเดินตรงไปยังบริเวณผู้เสียหายนั่ อยู่กับเพื่อนอีกสองสามคน เข้าไปนั่งบนที่พักแขนติดกับที่ผู้เสียหาย นั่งแล้วเอามือลูบหัว จากนั้นเอามือไปโอบกอดที่หัวไหล่ จนกระทั่งมีผู้ใหญ่เห็นความผิดปกติก็ขอให้แยกย้ายกันไปนอน ซึ่งผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นหนึ่งในพยานให้กับผู้เสียหายด้วย

วงจรปิดจุดที่สองอยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งผู้เสียหายไปล้างหน้าและถอดคอนแทคเลนส์ บริเวณอ่างล้างหน้า โดยผู้ก่อเหตุยังตามมาตอแยกอดผู้เสียหาย ดึงแขนเข้าไปในซอกเพื่อหลบสายตาคน ซึ่งภาพจากวงจรปิดก็จะเห็นพฤติกรรมชัดเจน โดยในระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุ พูดกับผู้เสียหายว่าทำไมไม่ทักผม แฟนหึงหรือ ไปมีลูกกับใคร แต่ผู้ใหญ่ท่านเดิมผ่านมาขัดจังหวะอีก ผู้ก่อเหตุเลยต้องหยุดการกระทำของตัวเอง

จุดที่สามเป็นวงจรปิดตัวเดียวกับจุดที่สอง เพราะห้องของผู้เสียหายอยู่ติดกับห้องน้ำ ก็เลยบันทึกภาพผู้ก่อเหตุเข้าห้องนอนผู้เสียหายได้ทั้งสองครั้ง ตรงตามที่ผู้เสียหายให้การกับตำรวจไป เรียกว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเลย

ส่วนรายละเอียดพฤติกรรมที่พยายามจะย่ำยีเธอ เราจะไม่ขยายความเพิ่ม เพราะเคยนำเสนอไปแล้ว โดยอธิบดีผู้พิพากษาศาลฯ รายนี้ นอกจากจะถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ตามข่าวที่เราทราบกันมาคือ ถูกย้ายไปช่วยราชการสำนักประธานศาลฎีกา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ให้มีผลทันที ให้ไปมีผลวันที่ 8 กรกฎาคม มันมีเงื่อนงำตรงนี้ คือจากข่าวที่ออกมาตอนนั้นไม่มีใครเห็นคำสั่งตัวจริงเลย ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการ หรือ ก.ต. ก็มีมติเห็นชอบตามคำสั่งของประธานศาลฎีกา โดยเข้าใจว่าเป็นคำสั่งให้ไปช่วยราชการฯ

จับตา ก.ต.ไม่เห็นชอบคำสั่งประธานศาลฎีกา
ส่วนในคำสั่งประธานศาลฎีกาที่เรามีอยู่นั้น ไม่ใช่ไปช่วยราชการฯ อย่างที่เข้าใจ แต่เป็นให้ไปดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา เพราะประธานศาลฎีกาออกอีกคำสั่งรองรับให้ไปเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาประจำคณะที่ 31 พอเรื่องไปถึง อนุ ก.ต. เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ 21 ต่อ 0 ไม่เห็นชอบคำสั่งของประธานศาลฎีกา

โดยในวันที่ 30 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ก.ต.จะมีการประชุมพิจารณาทบทวนตั้งแต่วันที่มีมติเห็นชอบคำสั่งประธานศาลฎีกา เพราะเข้าใจว่าเป็นการย้ายไปช่วยราชการ แต่ความจริงเป็นการย้ายและแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีมติเปลี่ยนแปลงมติเดิม จากเห็นชอบเป็นไม่เห็นชอบคำสั่งประธานศาลฎีกา ก็เท่ากับว่าประเด็นที่อธิบดีฯ คนนี้จะได้ไปเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาคงยากแล้ว เรียกว่าเป็นปมร้อนในแวดวงศาลฯ เพราะถกกันแรง เถียงกันหนัก จบอย่างไรมีความคืบหน้าจะรายงานให้คุณผู้ชมรับทราบอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง