เจาะประเด็นข่าว 7HD - เรายังคงติดตามประเด็นตลาดเกษตรอินทรีย์วังหมื่น จังหวัดหนองบัวลำภู หลังสร้างแล้วเสร็จมาร่วม 2 ปี แต่เปิดดำเนินการไม่ได้ เพราะไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ราชพัสดุ เรื่องนี้เป็นปัญหาแน่นอน เพราะถ้าไม่เปิดดำเนินการ ทรัพย์สินจะค่อย ๆ เสียหาย แล้วประชาชนก็จะไม่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ แนวทางออกจะเป็นอย่างไร ติดตามได้กับคุณณัฐดนัย ใหม่ซ้อน ในคอลัมน์หมายเลข 7
ท่าทางขึงขังของนายไชยา พรหมา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตำหนิแม้กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู หลังโครงการก่อสร้างตลาดเกษตรอินทรีย์วังหมื่น จังหวัดหนองบัวลำภู เนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู วงเงินก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 11 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ตั้งแต่ปี 2565 กลับเปิดดำเนินการไม่ได้ เพราะตลาดเกษตรอินทรีย์วังหมื่น ตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ สีเขียวอ่อน ซึ่งเป็นประเภทที่โล่งเพื่อนันทนาการและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทำให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ จึงหวั่นว่าทรัพย์สินที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมีโอกาสจะเสื่อมโทรม หากไม่ได้รับการบำรุงรักษา
เรื่องนี้ต้องช่วยกันหาทางออกใหม่ เพื่อให้ตลาดเกษตรอินทรีย์วังหมื่น เปิดดำเนินการได้ คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุน ส่วนขั้นตอนการก่อสร้าง ก่อนจะได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุ ถูกหรือผิดหลักเกณฑ์อย่างไรนั้น จะต้องพิจารณากันตามข้อเท็จจริง
มุมมองของนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้อำนวยการโครงการนวัตกรรมการตรวจสอบภาครัฐและเอกชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ และอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า การแก้ไขปัญหาต้องยึดหลักการและเหตุผล จะถือหลักนิติศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ ฉะนั้นเวลานี้จึงต้องทำให้ทรัพย์สินเกิดประโยชน์มากที่สุด
ล่าสุด สำนักงานธนารักษ์พื้นที่หนองบัวลำภู ยืนยันว่า การขอใช้อนุญาตพื้นที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกรมธนารักษ์ และยืนยันว่าไม่สามารถอนุโลมให้ใช้พื้นที่ได้ จนกว่าการพิจารณาอนุญาตจะแล้วเสร็จสมบูรณ์
