ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี หรือ ครูอุ้ม ซึ่งเป็นผู้ใช้ TikTok ชื่อ “askrooaoomaimpatc” หรือ “ครูอุ้ม” ได้โพสต์คลิปเรื่องราวนักเรียนสองพี่น้อง พร้อมเขียนแคปชันว่า “บ้านไหนมีชุดนักเรียนไม่ใช้ ครูขอรับบริจาคต่อนะคะ”
โดยครูอุ้ม เป็นครูชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ และวันอังคาร ที่ 24 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่เป็นครูเวร คอยรับเด็กนักเรียนอยู่หน้าโรงเรียน กระทั่งสะดุดตากับเด็กนักเรียนหญิง 2 คน ด้วยความเอ็นดูตัวเล็กที่ตัดผมเอง และเกิดความสงสารคนพี่ที่ใส่เสื้อนักเรียนขาด จึงได้เรียกมาสอบถาม ความรู้สึกตอนแรกคือจุกอก อยากจะซื้อชุดนักเรียนให้ในตอนนั้นเลย เนื่องจากไม่ได้เป็นครูประจำชั้น เห็นเด็กทั้ง 2 คนบ้างเป็นบางครั้ง เพิ่งมารู้ว่าน้องขาดแคลนตอนเป็นครูเวร จึงได้บันทึกคลิปวิดีโอ และโพสต์เพื่อขอรับบริจาคชุดนักเรียนจากคนที่มีและไม่ได้ใช้แล้ว
หลังคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้ใหญ่ใจดีหลายคนแสดงเจตจำนงอยากช่วยเหลือ ติดต่อมาหาครูอุ้ม เพื่อส่งชุดนักเรียน เสื้อผ้า รองเท้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งมอบเงินไว้เป็นทุนการศึกษา เพื่อให้น้องทั้งสองคนไว้ไปโรงเรียน ต่อมาเมื่อมีธารน้ำใจมาให้สองพี่น้องในเบื้องต้น ครูอุ้มและครูประจำชั้นก็ตามไปเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งพบว่าเด็กสองพี่น้องอาศัยอยู่กับคุณยาย เนื่องจากพ่อกับแม่ไปทำงานที่ต่างจังหวัด โดยน้องน้ำมนต์เป็นพี่สาว อายุ 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ส่วนน้องสาวชื่อ น้องณิชา เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ปกติจะขี่จักรยานไปโรงเรียน ที่อยู่ห่างบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร แต่จักรยานยางรั่ว คุณยายยังไม่มีเงินซ่อม และบางวันเด็กทั้งสองคนก็ไม่มีเงินไปโรงเรียน เพราะคุณยายไม่มีเงินให้ ต้องอาศัยขอขนมเพื่อนกิน
ขณะเดียวกันครูอุ้ม อธิบายสาเหตุที่น้องน้ำมนต์มีชุดนักเรียนแค่ชุดเดียวว่า เนื่องจากปีนี้น้องเลือกเอารองเท้า เพราะงบสนับสนุนจากโรงเรียนมีจำกัด ซึ่งจะให้เด็ก ๆ เลือกเอาว่าจะเอากระเป๋า รองเท้า หรือชุดนักเรียน และน้องก็ได้เลือกเอารองเท้า นอกจากนี้ยังมีเด็กนักเรียนของโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ขาดแคลนทุนทรัพย์อีกหลายคน ส่วนโรงเรียนก็อยู่พื้นที่ห่างไกลเขตการศึกษา งบประมาณจากทางภาครัฐที่มาสนับสนุนยังถือว่าน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนการสอน แม้แต่รั้วของโรงเรียนยังไม่มี จึงทำให้เป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก ๆ มาก
อย่างไรก็ตาม แม้ครูอุ้มจะไม่ใช่ครูประจำชั้นของน้องทั้งสองคน แต่ตอนนี้คุณครูได้เป็นสะพานบุญ เพราะมีผู้ใหญ่ใจดีหลายคนยื่นมือช่วยเหลือ ต่อไปน้องจะได้มีชุดนักเรียนหลายชุด และมีเงินไปซื้อขนมที่โรงเรียนทุกวัน โดยคุณครูบอกว่ารู้สึกดีใจ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง เป็นสะพานบุญเล็กน้อยทำให้ชีวิตของเด็กด้อยโอกาสขาดแคลน มีความเป็นอยู่ มีเครื่องนุ่งห่มที่ดีขึ้น
ทั้งนี้เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ครูอุ้มได้โพสต์คลิปวิดีโอการเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน กระทั่งไปเห็นชีวิตความลำบากของน้องเคย เด็กอนุบาลยอดกตัญญูช่วยดูแลคุณย่าที่พิการทางสายตา จนกลายเป็นไวรัล มีคนใจบุญ และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าช่วยเหลือ จนมีการสร้างบ้านหลังใหม่ให้อยู่ ชีวิตมีความสุข และมีแต่รอยยิ้มจนถึงทุกวันนี้