ที่โบลิเวีย นักดับเพลิงกำลังต่อสู้กับไฟป่า ที่ลุกลามอย่างหนักกว่า 20 จุด ในเขตซานตาครูซ โดยทางการได้ส่งทหาร และเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำ เข้าไปช่วยดับไฟอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ นักดับเพลิงอาสาสมัคร ช่วยขุดแนวกันไฟ และชาวบ้านในชุุมชนต่าง ๆ ช่วยกันนำถังน้ำ มาดับไฟด้วย โดยทางการเปิดเผยว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง ที่ตั้งใจจุดไฟเผา จนทำให้เกิดไฟป่า
ทางการท้องถิ่น ในเขตซานตาครูซ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย พร้อมขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อจัดการกับภัยพิบัติโดยเร็ว
ส่วนที่ กรุงโรมของอิตาลี เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ บริเวณเนินเขาแห่งหนึ่ง เมื่อวานนี้ สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวเมือง โดยเหตุไฟไหม้ยังเกิดขึ้นใกล้กับศาลยุติธรรม และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติอิตาลี (RAI) รวมถึงหอดูดาว และอาคารที่พักอาศัยอีก 6 หลัง ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชน และเจ้าหน้าที่ เพื่อความปลอดภัย เบื้องต้น ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
สำนักงานป้องกันพลเรือนประจำภูมิภาค เตือนว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟไหม้ในกรุงโรม เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งในช่วงบ่ายจะพุ่งสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส
และที่มาซิโดเนียเหนือ ทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเฮลิคอปเตอร์ต่อสู้กับไฟป่าเป็นวันที่ 3 แล้ว โดยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ลมแรง และฝนตกประปราย เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้หลายประเทศ บริเวณคาบสมุทรบอลข่าน มีสภาพอากาศเลวร้าย ล่าสุด มีรายงานบ้านเรือนถูกไฟป่าเผาวอดไปหลายสิบหลัง และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คน
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สถานการณ์ไฟป่าที่รุนแรง เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ