ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีหญิงสาวเจ้าของรถยนต์ ติดต่อเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือรายการถกไม่เถียงว่า เธอเอารถยนต์ไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถในจังหวัดศรีสะเกษ โอนเงินค่าซ่อมไปแล้ว 30,000 บาท แต่รถไม่เสร็จสักที อ้างน้ำท่วมอู่ ทำรถไม่ได้ อ้างแม่ป่วย ต้องดูแลแม่ไม่มีเวลาซ่อมให้ อ้างรถล้มบาดเจ็บไม่สามารถทำรถให้ได้บ้าง ล่าสุดผู้เสียหายเข้าไปดูรถที่อู่ ปรากฏว่าไม่พบรถยนต์ของตัวเองแล้ว เจ้าของอู่อ้างไฟแนนซ์มายึดรถไปแล้ว พอโทรศัพท์ถามเจ้าที่ไฟแนนซ์ กลับได้คำตอบว่า รถยังอยู่ในสัญญา ไม่ได้ไปยึด
นางสาวศิริพร แก้วคำ อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณปลายปี 2567 รถตนเองเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นได้มีการจ่ายเงินค่าซ่อมงวดแรกให้ 10,000 บาท หลังจ่ายเงินไปแล้ว ทางอู่ซ่อมรถได้อ้างว่าตอนนี้ยังไม่สามารถซ่อมรถให้ได้ เนื่องจากฝนตกหนักน้ำท่วมอู่ ขอเวลาหน่อย ตนก็เข้าใจ ต่อมาช่วงปี 2566 ทางอู่ได้โทรศัพท์มาเบิกเงินค่าซ่อมอีก ตนเองก็จ่ายเงินให้ไปอีก 20,000 บาท หลังจ่ายเงินไปแล้วตนได้โทรศัพท์สอบถามว่ารถซ่อมเสร็จหรือยัง ได้คำตอบกลับมาว่า ตอนนี้แม่เจ้าของอู่ป่วยหนัก ขอดูแลแม่ก่อนเดี๋ยวจะซ่อมรถให้ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ต่อมาตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามอีก เจ้าของอู่ได้อ้างว่าขี่รถจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บ ยังไม่สามารถซ่อมรถให้ได้ ขอเวลาอีกสักหน่อย ตนเริ่มสงสัยจึงเดินทางไปไปดูรถ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ปรากฏว่ายังพบรถยนต์ของตนเองจอดอยู่ภายในอู่ แต่ยังซ่อมไม่เสร็จ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 ตนเข้าไปดูรถอีกครั้ง ปรากฏว่ารถยนต์ตนเองไม่ได้อยู่ในอู่แล้ว พอสอบถามเจ้าของอู่ได้อ้างว่า รถตนเองถูกเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์นำรถมายกไป วันเกิดเหตุเจ้าของอู่ไม่อยู่ จึงไม่ได้ห้ามไว้ ตนเองจึงเข้าไปติดต่อที่สำนักงานใหญ่ของไฟแนนซ์รถตน ได้ข้อมูลว่าไม่เคยส่งเจ้าหน้าที่ไปยึดรถ เพราะรถยังอยู่ในการผ่อนชำระ ยังไม่ผิดสัญญา ตนจึงไปต้องไปแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารถตนเองหายไปไหน หายได้อย่างไร ใครเป็นคนโกหก ระหว่างเจ้าของอู่กับไฟแนนซ์ ตอนนี้จึงอยากให้รายการช่วยตามหารถยนต์ของตนให้ที เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
