อัปเดต! สถานการณ์น้ำท่วม 6 จังหวัด ลำปาง น่าน เชียงราย ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด

อัปเดต! สถานการณ์น้ำท่วม 6 จังหวัด ลำปาง น่าน เชียงราย ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด

View icon 119
วันที่ 4 ส.ค. 2567 | 10.16 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“มหาดไทย” เร่งช่วยเหลือชาวบ้านประสบภัยน้ำท่วมเต็มกำลัง หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กระทรวงมหาดไทยสรุปสถานการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.- 3 ส.ค. 67 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง น่าน พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง และจังหวัดปราจีนบุรี รวม 41 อำเภอ 130 ตำบล 605 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 11,684 ครัวเรือน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ทุกภาคส่วนได้ระดมความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน จนกระทั่งล่าสุด  (3 ส.ค. 67)  ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ จังหวัดลำปาง น่าน เชียงราย ปราจีนบุรี จันทบุรี และจังหวัดตราด รวม 19 อำเภอ 37 ตำบล 150 หมู่บ้าน 2,468 ครัวเรือน

จากข้อมูลรายงานสถานการณ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อเวลา 18.00 น. มีพื้นที่จังหวัดที่ยังได้รับผลกระทบ ดังนี้

1) จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 67 เวลา 17.00 น. เกิดฝนตกหนักทำให้ดินสไลด์และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ ต.บ้านขอ ต.หัวเมือง อ.เมืองลำปาง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ที่ทำการปกครองอำเภอ หน่วยทหารในพื้นพื้นที่ อปท. จิตอาสา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อปพร. อาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหาย และเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

2) จ.น่าน ห้วงระหว่างวันที่ 2-3 ส.ค. 67 เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ ต.เชียงกลาง อ.เชียงกลาง ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว ต.ริม ต.ท่าวังผา ต.ตาลชุม ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย และยังได้เกิดดินสไลด์บริเวณถนนทางหลวง 1333 (แม่สะนาน-ผักเฮือก) ในพื้นที่ ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ที่ทำการปกครองอำเภอ หน่วยทหารในพื้นพื้นที่ อปท. จิตอาสา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อปพร. อาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหาย ให้การช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

3) จ.เชียงราย ห้วงวันที่ 1-3 ส.ค. 67 เกิดฝนตกหนักน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ต.แม่จัน ต.แม่คำ ต.ป่าซาง ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน ต.แม่สองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบ 50 ครัวเรือน และได้เกิดดินสไลด์ในพื้นที่ ต.เทอดไทย ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง ต.แม่ข้าวต้ม ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบ 9 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ที่ทำการปกครองอำเภอ หน่วยทหารในพื้นพื้นที่ อปท. จิตอาสา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อปพร. อาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายให้การช่วยเหลือ ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

4) จ.ปราจีนบุรี ห้วงวันที่ 29 ก.ค. - 3 ส.ค. 67 เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นพื้นที่ ต.บุฝ้าย ต.ประจันตคาม ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม ต.นาดี ต.สะพานหิน ต.ลำพันตา ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ต.กบินทร์ ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบ 618 ครัวเรือน พื้นที่เกษตร พืชไร่ 300 ไร่ นาข้าว 2,200 ไร่ พืชสวน 60 ไร่ บ่อปลา 7 บ่อ สุกร 13 ตัว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ที่ทำการปกครองอำเภอ หน่วยทหารในพื้นพื้นที่ อปท. จิตอาสา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขนย้ายปศุสัตว์ และดำเนินการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว

5) จ.จันทบุรี ห้วงวันที่ 27 ก.ค. 3 ส.ค. 67 เกิดฝนตกต่อเนื่องและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ต.วังแซ้ม อ.มะชาม ต.บ่อ อ.ขลุง ต.จันทนิมิต อ.เมืองจันทบุรี ต.นายายอาม ต.วังโตนด อ.นายายอาม ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ ต.ทุ่งเบญจา ต.โขมง ต.รำพัน อ.ท่าใหม่ เบื้องต้นส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,720 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 20,545 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (หญิง อายุ 11 ปี สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำ) โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 17 จันทบุรี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี สนับสนุนรถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 1 คัน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 1 คัน รถตรวจการณ์ 1 คัน หน่วยทหารในพื้นที่ ที่ทำการปกครองอำเภอ อปท. จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือ และดำเนินการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ สถานการณ์คลี่คลายแล้ว

6) จ.ตราด ห้วงวันที่ 26 ก.ค. – 3ส.ค. 67 เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.เทพนิมิต ต.สะตอ อ.เขาสมิง ต.ห้วยแร้ง ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด เบื้องต้นส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 80 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร 26,325 ไร่ เป็ด/ไก่ 37,000 ตัว สถานที่ราชการ 3 แห่ง เรือล่ม 5 ลำ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 17 จันทบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด ที่ทำการปกครองอำเภอ หน่วยทหารในพื้นพื้นที่ อปท. จิตอาสา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือในเบื้องตัน และดำเนินการเร่งระบายายน้ำออกจากพื้นที่ สถานการณ์คลี่คลายแล้ว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ยังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป้าไหลหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและทะเลอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย

และ ภายหลังสถานการณ์บรรเทาเบาบางลง ให้บูรณาการทุกภาคีเครือข่ายเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น และทำการสำรวจเยียวยาตามระเบียบกฎหมาย สำหรับการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน สามารถใช้กลไกทีมจังหวัด ทีมอำเภอ ทีมตำบลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชน

"ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด จนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติหรือต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนรินภัย 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอประจำตำบล นายอำเภอ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง