นครบาล รวบ “เอมี่” กระเทยแสบ ตุ๋นชาวญี่ปุ่นร่วมลงทุนสูญเงินกว่าสิบล้านบาท อึ้ง! 13 ปี หลอกเหยื่อชาวญี่ปุ่น 73 คน
จากกรณีชายชาวญี่ปุ่น อายุ 36 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า ถูกนายอุทัย (สงวนนามสกุล) หรือ "เอมี่" หลอกลงทุน โดยให้ผู้เสียหายไปรูดบัตรเครดิตซื้อทอง แล้วนำไปเปลี่ยนเป็นเงินสดจนสูญเงินกว่า 15 ล้านบาทนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวานนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บชน., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5, พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ และ พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยชมานนท์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวนติดตามเร่งรัดคดีฉ้อโกงชาวต่างชาติ กระทั่งสามารถจับกุมตัว นายอุทัย หรือ เอมี่ (สาวประเภทสอง) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ในข้อหาฉ้อโกง
สำหรับพฤติการณ์ของนายอุทัย เป็นบุคคลที่ชอบหลอกลวง โดยจะเลือกเหยื่อเป็นชาวญี่ปุ่นหรือนักท่องเที่ยว ชักชวนพูดคุยว่าตนเองเดินทางมาจากฮ่องกง และหลอกว่าทำกระเป๋าเงินหล่นหาย พร้อมกับเอกสารหนังสือเดินทาง ขณะนั่งรถมาจากพัทยาจนกระทั่งมาถึงกรุงเทพฯ จึงขอความช่วยเหลือยืมเงินจากผู้เสียหาย เพื่อให้จ่ายเงินค่าทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้ก่อน และจะนำเงินมาคืนให้ภายหลัง ก่อนที่จะแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางการติดต่อของผู้เสียหายไว้
ต่อมา นายอุทัย ยังคงมีการติดต่อผู้เสียหายอยู่บ่อยครั้ง และอ้างเหตุเรียกความสงสารเห็นใจ เพื่อขอยืมเงินผู้เสียหายมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังหลอกผู้เสียหายว่า ทำงานโปรเจคให้กับบริษัทยาชื่อดัง โปรเจคมีปัญหาต้องใช้เงิน ต้องการให้ผู้เสียหายช่วยเรื่องเงิน โดยจะโอนคืนผู้เสียหายภายหลัง สุดท้ายอ้างว่าบัญชีถูกล็อก โปรเจคล่ม ผู้เสียหายทวงถามเงินคืนหลายครั้ง แต่ไม่ได้คืน เมื่อตรวจสอบทางสื่อโซเชียลมีเดีย พบว่า นายเอมี่ มีประวัติถูกชาวต่างประเทศแฉ หลังก่อเหตุหลอกผู้เสียหายคนอื่น มากกว่า 10 ครั้ง จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์นายเอมี่ ตั้งแต่ปี 2011-2024 พบว่ามีชาวญี่ปุ่นถูกหลอก ทั้งหมด 73 คน มูลค่าความเสียหาย เกือบ 26 ล้านบาท รายละเอียด ดังนี้
- ปี 2011 ผู้เสียหาย 25 ราย มูลค่าความเสียหาย 942,000 บาท
- ปี 2012 ผู้เสียหาย 9 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,166,000 บาท
- ปี 2014 ผู้เสียหาย 16 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,588,000 บาท
- ปี 2015 ผู้เสียหาย 2 ราย มูลค่าความเสียหาย 330,000 บาท
- ปี 2018 ผู้เสียหาย 8 ราย มูลค่าความเสียหาย 307,000 บาท
- ปี 2020 ผู้เสียหาย 6 ราย มูลค่าความเสียหาย 293,000 บาท
- ปี 2022 ผู้เสียหาย 3 ราย มูลค่าความเสียหาย 90,000 บาท
- ปี 2023 ผู้เสียหาย 1 ราย มูลค่าความเสียหาย 16,000,000 บาท
- ปี 2024 ผู้เสียหาย 3 ราย มูลค่าความเสียหาย 4,072,000