คดีหม่อมหลวงยิงเพื่อนบ้านดับ เมียคนตายลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

คดีหม่อมหลวงยิงเพื่อนบ้านดับ เมียคนตายลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

View icon 616
วันที่ 5 ส.ค. 2567 | 12.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หม่อมหลวงยิงเพื่อนบ้านดับ ทั้งที่ยกมือไหว้ขอชีวิต แม้หลังก่อเหตุจะยิงตัวหนีความผิด เมียผู้เสียชีวิตเผยอดทนกับครอบครัวนี้มานาน ขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ความคืบหน้าคดีอ้างตัวเป็นหม่อมหลวง อายุ 59 ปี ยิงเพื่อนบ้านอายุ 46 ปี ก่อนยิงตัวเองหนีความผิด สาเหตุมาจากเพื่อนบ้านเตือน เรื่องเมาส่งเสียงดัง วันนี้ (5 ส.ค.67) ลูกชายของเพื่อนบ้าน ที่ถูกหม่อมหลวงยิงเสียชีวิต ร่วมกับชาวบ้าน ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยนำทรายมากลบรอยเลือด ใช้น้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาคราบเลือดเพื่อลดกลิ่นคาวคลุ้ง ก่อนล้างทำความสะอาดที่เกิดเหตุ

นายสิทธิพงษ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หม่อมหลวง (ผู้ก่อเหตุ) กับภรรยา มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2545 เป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน อ้างตัวเป็นหม่อมหลวงรู้จักคนใหญ่คนโต แรก ๆ ก็ช่วยมีส่วนร่วมกับชาวบ้านตลอด ต่อมามีความคิดเห็นไม่ตรงกับผู้นำชุมชน ทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านไปทั่ว ข่มขู่จะยิงกับคนที่มีเรื่องด้วยเป็นประจำ กับเพื่อนบ้าน ผู้เสียชีวิต เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่นานหลายปีแล้ว ในวันเกิดเหตุก็มีการสังสรรค์กันที่บ้าน ก่อนจะทะเลาะกับเพื่อนบ้าน 

ขณะที่ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นหม่อมหลวง เป็นคนชอบดื่มสุรา และมักส่งเสียงดังในหมู่บ้านเป็นประจำ ไม่มีใครกล้าตักเตือน ยิ่งเฉพาะเวลามีตำรวจมานั่งสังสรรค์ด้วย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนและสามี ทนเห็นการกระทำของหม่อมหลวง ไม่ไหว จึงได้โพสต์ข้อความต่อว่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุไปว่า ในเมื่อตัวเองเป็นถึงหม่อมหลวงแล้ว จะกินเหล้าเมายา ก็อย่าให้รบกวนชาวบ้านมากนัก ใครก็กินเหล้ากันได้ แต่กินแล้วให้มีมารยาทหน่อย อย่าเสียงดังรบกวนมากนัก ทำให้หม่อมหลวงกับภรรยา ไม่พอใจเข้ามาคอมเมนต์ต่อว่าในเฟซบุ๊ก ตนจึงลบโพสต์ดังกล่าวออกไป เวลาที่พวกตนเดินหรือขับรถผ่านบริเวณสี่แยก ใกล้กับบ้านของหม่อมหลวง ที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ก็จะถูกต่อว่าหรือตะโกนด่าหยาบคายตลอด

กระทั่งก่อนเกิดเหตุสามีตนเดินผ่านหน้าบ้านอีกครั้ง จึงเกิดมีปากเสียงท้าตีท้าต่อยกัน หม่อมหลวงก็สู้ไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปเอาปืนพกสั้นออกมา จังหวะนั้นสามีกำลังเดินกลับใกล้จะถึงบ้านแล้ว โดยหม่อมหลวงวิ่งถือปืนมาข่มขู่ จะฆ่าให้ตาย สามีก็ยกมือไหว้ ยอมขอโทษ ขอให้หม่อมหลวงไว้ชีวิต แต่หม่อมหลวงหัวร้อนยิงเข้าเบ้าตาสามีจนล้มลงกลับพื้น จากนั้นก็ยังยืนเฝ้าสามีที่นอนหายใจรวยริน ห้ามไม่ให้ใครเข้ามาช่วยเหลือเด็ดขาด ระหว่างนั้นชาวบ้านโทร. ไปแจ้งตำรวจ ว่ามีคนถูกยิง เมื่อตำรวจขับรถเลี้ยวเข้าซอยที่เกิดเหตุหม่อมหัวร้อนยกปืนขึ้นยิงขมับตัวเอง ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด ซึ่งตนยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทนกับครอบครัวนี้มานาน

ทั้งนี้มีรายงานว่า ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่า พอใจที่หม่อมหลวง เลือกจบชีวิตตัวเองหนีความผิด

ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า สำหรับร่างของผู้เสียชีวิต ขณะนี้เก็บไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬ พรุ่งนี้ (6 ส.ค.67) จะนำส่งไปผ่าพิสูจน์หัวกระสุนออก ที่สถาบันนิติเวชขอนแก่น ตอนนี้อยู่ระหว่างเรียกญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุหรือแรงจูงใจที่หม่อมหลวงก่อเหตุสลด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง