ตม.หนองคาย รวบแก๊งเวียดนาม ขนเพื่อนร่วมชาติติดแบล็กลิสต์เข้าไทย รับค่าจ้างรายหัว 1.5 หมื่นบาท ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ส่งดำเนินคดี
วันนี้ (5 ส.ค. 67) พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย ,พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ตม.หนองคาย โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4 ร่วมกันแถลงจับกุม MR.PHAN DINH SY อายุ 34 ปี , MR.PHAN VAN อายุ 36 ปี และ MR.TRAN VAN AN อายุ 30 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม พร้อมยึดรถยนต์สีดำ โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.หนองคาย จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ที่สถานีขนส่งจังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค.67 ชุดการข่าว ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย ได้สืบทราบว่ามีชาวเวียดนาม ใช้เฟซบุ๊กประกาศเชิญชวนชาวเวียดนาม ที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และชาวเวียดนามที่ต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร หากต้องการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยให้ติดต่อผู้ต้องหา โดยคิดค่าใช้จ่ายรายละ 15,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย จึงออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า วันนี้ MR.PHAN DINH SY จะใช้รถยนต์สีดำ มารับชาวเวียดนามหลบหนีเข้าเมืองที่สถานี บขส.หนองคาย ก่อนจะพาเข้าไปในพื้นที่ชั้นในของประเทศ จึงได้ออกสืบสวนติดตาม จนสามารถจับกุมขบวนการดังกล่าวได้ 3 ราย คือ MR.PHAN DINH SY มีวีซ่าประเภท NON-L-Aอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 3 ก.พ.2568 เป็นคนขับรถเก๋งสีดำ มารับ MR.PHAN VAN ชาวเวียดนามหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2566 และเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว และ MR.TRAN VAN AN ชาวเวียดนามหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.2566
โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย จับกุมคนต่างด้าวลำดับที่ 1 ในข้อหา ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และเป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 2 ในข้อหา ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และหลบหนีเข้าเมือง และผู้ต้องหาคนที่ 3 ในข้อหา หลบหนีเข้าเมือง ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุมนำทั้งหมดส่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
