มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจ ปคบ. บุกจับร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า เปิดข้างโรงเรียน ม.1 เป็นลูกค้า

มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจ ปคบ. บุกจับร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า เปิดข้างโรงเรียน ม.1 เป็นลูกค้า

View icon 173
วันที่ 5 ส.ค. 2567 | 17.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (5 ส.ค. 67) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ลงพื้นที่จ.ปราจีนบุรี พร้อม พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. และกำลังตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. เข้าจับกุม "ร้านเหลือง" ซึ่งเป็นร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าที่แพร่ระบาดอยู่ข้างโรงเรียนดังใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมน้ำยา อะไหล่แทงก์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก มูลค่านับแสนบาท

สืบเนื่องจากป้าและตาของเด็กชายนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา แจ้งว่า หลานชายอายุ 12 ขวบ เป็นเรียนชั้น ม.1 เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้มาได้ 2 เดือน โดยตอนแรกทางบ้านเห็นเงินในแอปพลิเคชันธนาคารที่มีอยู่ 16,000 บาทของน้อง หายไป 6,000 บาท พอสอบถามจึงทราบว่าน้องถูกเพื่อนและรุ่นพี่ชักชวนให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และซื้อแจกเพื่อน ๆ จนเงินหมด หลานไม่กล้าขัดขืนเพราะเป็นเด็กใหม่ ป้าจึงมาปรึกษามูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยดำเนินการกับพวกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กนักเรียน 

นอกจากนี้หลานยังบอกอีกว่า ในโรงเรียนเด็กกลุ่มที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะไปรวมตัวแอบสูบกันที่บริเวณดาดฟ้าอาคารเรียน และตามห้องน้ำของโรงเรียน โดยอาศัยจังหวะช่วงเปลี่ยนคาบและเดินเรียน รุ่นพี่กับเพื่อนบางคนก็มาตีสนิทชักชวนขอให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าให้สูบ ที่ผ่านมาครูก็มีการตรวจค้นกระเป๋านักเรียน เมื่อตรวจเจอบุหรี่ไฟฟ้าก็จะยึดและทำโทษ แต่เด็ก ๆ ก็ไปหาซื้อกันมาสูบใหม่เพราะร้านอยู่ใกล้โรงเรียน ราคาอันละ 200-300 บาท ทั้งใช้ครั้งเดียวทิ้งและแบบเติมน้ำยากลิ่นต่าง ๆ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้เด็กนักเรียนก็จะเสียอนาคตกันจำนวนมาก

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ต.วิทยา เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. กวาดล้างจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าข้างโรงเรียนดังกล่าว กระทั่งมีการมอบหมาย พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. และ พ.ต.ต.ศิษฏพงศ์  สิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ปคบ. มาประชุมกับนางปวีณา และผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเพื่อรับทราบข้อมูลที่มูลนิธิปวีณาฯ จนเป็นที่มาของการเข้าจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าในวันนี้

นางปวีณา กล่าวว่า การจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าของตำรวจ ปคบ. ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างยิ่งที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในกลุ่มเด็กนักเรียนและเยาวชน ซึ่งพิษภัยโทษของมันร้ายแรง มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบร่างกาย ประสาท และสมองเด็ก ๆ กรณีนี้ร้านค้าบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ใกล้กับโรงเรียนเพียง 200 เมตรเท่านั้น ซึ่งปล่อยไว้ไม่ได้ ฝากรัฐบาลให้มีนโยบายเข้ามากวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจังให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว 

นอกจากนี้เด็กนักเรียนยังได้ให้ข้อมูลกับมูลนิธิปวีณาฯ เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอีกว่า นอกจากเด็กในโรงเรียนนี้แล้ว ยังมีเด็กจากโรงเรียนใกล้เคียงอีกหลายแห่งที่มาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากร้านนี้ และร้านนี้เองก็มีเครือข่ายที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวอีกหลายร้าน ซึ่งนางปวีณา จะได้ประสานข้อมูลกับ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการได้รับทราบข้อมูล หามาตรการในการป้องกันและช่วยเหลือเด็กนักเรียนต่อไป

สำหรับการดำเนินคดีกับ "ร้านเหลือง" เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562” และ “ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรจะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ