ชัยธวัช ห่วงผลกระทบยุบก้าวไกล วางบรรทัดฐานการตีความ รธน. และกฎหมายที่อันตราย สุ่มเสี่ยงในระยะยาวที่ระบอบประชาธิปไตย อาจกลายพันธุ์ไปเป็นระบอบอื่นได้
เวลา 18.00 น. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีแถลงการณ์ก้าวไกลไปต่อ โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค สส. พรรคก้าวไกล ทยอยขึ้นเวที โดยนายชัยธวัช และ สส. ทุกคนต่างสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ สกรีนข้อความยักไหล่ไปต่อ มีเพียงนายพิธาที่ยังสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว
นายชัยธวัช กล่าวว่า การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลถูกยุบ กก.บห. 11 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี แม้ว่าศาลจะวินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกลกระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กระทำการโดยเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง แต่ตนและพรรคก้าวไกลยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ศาลเห็น
“ผลกระทบที่สำคัญกว่าการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล และสิทธิทางการเมืองของ กก.บห. คือคำวินิจฉัยในวันนี้ส่งผลอย่างสำคัญในวางบรรทัดฐานการตีความรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่อันตราย สุ่มเสี่ยงกระทบต่อหลักการสำคัญและคุณค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ของพวกเราในอนาคต ผลของคำวินิจฉัยสุ่มเสี่ยงในระยะยาวที่ระบอบประชาธิปไตย อาจกลายพันธุ์ไปเป็นระบอบอื่นได้
นายชัยธวัช กล่าวเพิ่มเติมว่า ม.112 ยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลว่าจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพียงแต่มีความเห็นศาลไปจำกัดเนื้อหาบางอย่าง เรายังเห็นว่าตัวบทและการใช้ ม. 112 มีปัญหา ควรใช้กลไกสภาฯ หาทางออกดีกว่ากลไกอื่น หวังว่าในอนาคตสังคมไทยจะมีวุฒิภาวะพอในการหาทางออก ผ่านกระบวนการประชาธิปไตย
ภายหลังพรรคก้าวไกล แถลงเสร็จสิ้น นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ได้มอบช่อดอกไม้ให้กับ นายพิธาและนายชัยธวัช ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกัน
