เคราะห์ซ้ำ! 2 สาว หาสมัครงานใหม่ โดนมิจฉาชีพเอาไปเปิดบัญชีม้า หวั่นติดคุก

เคราะห์ซ้ำ! 2 สาว หาสมัครงานใหม่ โดนมิจฉาชีพเอาไปเปิดบัญชีม้า หวั่นติดคุก

View icon 119
วันที่ 9 ส.ค. 2567 | 13.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
มุกใหม่ของมิจฉาชีพ! 2 สาว เคราะห์ซ้ำ ตกงานหลังประสบอุบัติเหตุ หาสมัครงานใหม่ ถูกหลอกให้ส่งเอกสาร จนโดนเอาไปเปิดบัญชีม้า จนมีผู้เสียหายติดต่อมา ซ้ำบัญชีธนาคารถูกล็อกหมด และไม่สามารถเข้าทำงานที่ใหม่ได้

9 ส.ค. 67 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก น.ส.กัญญ์วรา อายุ 25 ปี และ น.ส.อลัญดา อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพแฝงมาในรูปแบบรับสมัครงานออนไลน์ ก่อนจะนำข้อมูลและรูปถ่ายของหญิงทั้ง 2 คนไปเปิดบัญชีม้า จนมีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความ และมีการฟ้องร้องขึ้นศาล หนำซ้ำบัญชีปกติที่ใช้งานมานานก็ถูกธนาคารอายัดหมด ไม่สามารถถอนเงินของตนเองออกมาได้  ไปสมัครงานก็ไม่ได้ เพราะติดเรื่องเอกสารบัญชีธนาคาร  ซึ่งทั้งสองก็เดินทางไปแจ้งความเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว แต่เรื่องก็โยนกันไปโยนกันมา จนถึงตอนนี้หญิงทั้งสองก็ไม่สามารถไปหาสมัครงานได้ และกลัวติดคุกในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ

โดยต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้เสียหาย ในพื้นที่ ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดย น.ส.กัญญ์วรา เปิดเผยว่า เดิมที่ตนเองและน้องสาว ทำงานอยู่แถวร่มเกล้า กทม. ก่อนจะประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์  ไม่สามารถเดินได้อย่างสะดวกทั้งตนและน้องสาว เมื่อลาหยุดนานก็ถูกให้ออกจากงาน ตนเองและน้องจึงกลับมาบ้านที่ จ.ฉะเชิงเทรา  มื่อพักรักษาตัวอาการเริ่มดีขึ้น จึงพยายามหาสมัครงานที่ใหม่ในเฟซบุ๊ก

กระทั่ง เลื่อนมาเจอมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาเปิดรับสมัครงานจัดเรียงพัสดุสินค้าเอกชน โดยมีรายได้ดี ตนเองจึงชวนน้องสาว ทักเข้าไปในข้อความของเพจนี้ เพื่อสอบถามรายละเอียดในการสมัครงาน จากนั้น ได้มีการพูดคุยถึงเงินรายได้ สถานที่ทำงาน และระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ จนตนและน้องสาวตายใจ  จากนั้นมิจฉาชีพได้ให้ตนแอดไลน์ เพื่อส่งเอกสารประจำตัวต่าง ๆ ทั้งสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนที่มีการเซ็นรับรอง รวมถึงให้ตนเองถ่ายหน้าตรง เหมือนรูปสมัครงานส่งไปให้  เมื่อตนเองและน้องสาวส่งเอกสารครบแล้ว มิจฉาชีพก็ได้บล็อกไลน์ตนเอง ซึ่งตอนแรกตนเองก็ยังไม่เอะใจ นึกว่าไลน์ของมิจฉาชีพมีปัญหา หรือไม่รับตนทั้งสองเข้าทำงาน 

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา มีเหยื่อจากแก๊งมิจฉาชีพติดต่อมาหาตน บอกว่าโอนเงินซื้อของ จำนวน 1,620 บาท ในชื่อของตน ตนเองพยายามสอบถามและอธิบายว่าไม่ใช่ตนที่โอน หนำซ้ำตนเองมีบัญชีธนาคารบัญชีเดียว ไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารอื่น แต่หญิงผู้เสียหายไม่เชื่อ ต้องการไกล่เกลี่ยและต้องการเงินคืน แต่ตนเองก็ตกงานไม่มีเงินจะคืน หนำซ้ำตนเองไม่ได้เป็นคนทำหรือรู้เห็นกับพวกมิจฉาชีพ จึงไม่ได้มีการคืนเงิน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ปัว จ.น่าน โทรศัพท์เข้ามาหาตน และแจ้งเรื่องดังกล่าวกับตน ด้วยความไม่สบายใจและกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี ทั้ง ๆ ที่ตนและน้องสาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สน.บางชัน ก่อนจะเดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

น.ส.กัญญ์วรา เปิดเผยต่อว่า หลังจากกลับมาบ้านที่ จ.ฉะเชิงเทราแล้ว ตนเองและน้องสาวก็เดินทางไปสมัครงานที่โรงงานในพื้นที่ ผ่านการตรวจร่างกาย ผ่านสัมภาษณ์และตรวจเอกสารประจำตัวเบื้องต้นทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปให้โรงงานในการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชี  แต่กลับเปิดบัญชีธนาคารใหม่ไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าติดตัวแดง ชื่อของตนเองและน้องสาว มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้า ทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ หนำซ้ำแอปพลิเคชันของธนาคารที่ตนเองใช้อยู่ประจำก็ถูกล็อก ไม่สามารถโอนเงินหรือถอนเงินของตนเองออกมาได้

ทำให้ตอนนี้เดือดร้อนหนัก กลัวติดคุก สมัครงานไม่ได้ แถมเงินของตนเองก็ไม่สามารถถอนออกได้ ตนเองพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ติดต่อสถานีตำรวจที่ผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความ เมื่อตนเองติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ก็ให้ตนเองติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหาย โดยยังไม่มีทางออกให้กับพวกตน ซึ่งไม่รู้จะมีหน่วยงานไหมมาแก้ไขปัญหาให้ตนและน้องได้ เงิน 1,620 บาท ของผู้เสียหาย สำหรับตนถือว่าเยอะมาก ไหนจะภาระค่าบ้าน ค่ารถ ค่ากินต่าง ๆ นานา ในตอนที่ตนเองตกงานไม่มีเงิน อีกทั้งตนเองก็ไม่ได้เป็นคนทำ จึงไม่รู้จะเจราจาความกันอย่างไร  ตอนนี้ก็ได้แต่ชวนน้องสาว ทำแซนวิสเดินขายตามท้องถนนบริเวณ 4 แยก หาเงินสดนำมาหมุนใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ในตอนนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง