เจาะประเด็นข่าว 7HD - วันนี้ 11 สิงหาคม เมื่อ 49 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์บีบหัวใจประชาชนริม 2 ฝั่งโขง หลังเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ พังครืน เรากำลังพูดถึงเหตุการณ์ พระธาตุพนม พังถล่ม ไปติดตามเหตุการณ์นี้กันอีกครั้ง ได้ในภาพเก่าเล่าเรื่อง
19.38 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม 2518 องค์พระธาตุพนม ซึ่งตั้งตระหง่านท่ามกลางความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนสองฝั่งโขง ในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม พังทลายลงมาทั้งองค์
อิฐนับพันก้อน ร่วงหล่นเป็นกองพะเนิน ลวดลายประดับองค์พระธาตุเเตกหัก เศษทองเหลืองอร่ามหลุดร่อน
พุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าว ต่างโศกาอาดูร
โดยมีบันทึกไว้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ พาวุ่นวายกันทั่วบ้านทั่วเมือง บางคนพูดปลอบใจผู้อื่น ทั้งที่ตนเองมีใบหน้าสลด ว่ามันเป็นธรรมดาของสังขาร อย่าเศร้าโศกเสียใจไปเลย
ก็ด้วยพระธาตุพนม ศิลปะจามองค์นี้ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนอกของพระพุทธเจ้า เเต่กลับได้รับความเสียหาย อย่างไม่มีใครคาดคิด
เพราะฟ้าฝนที่กำเริบท้าทายอำนาจความศรัทธา กระหน่ำซัดซาจนองค์พระธาตุพนม ยากจะมั่นคง
เเละเชื่อว่า ด้วยผลพวงการบูรณะซ่อมองค์พระธาตุ สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อปี 2483
ซึ่งมีการต่อยอดพระธาตุสูงขึ้นไป พร้อมทำรูระบายน้ำรอบด้านในส่วนยอด ทำให้น้ำฝนไหลเข้าไป เเต่ไม่มีทางออก
ประกอบกับก่อนหน้านั้น เกิดภัยพิบัติเเผ่นดินไหว ในเดือนมีนาคม 2518 ทำให้เกิดรอยร้าว ทั้งหมดทั้งมวล อาจเป็นสาเหตุทำให้ในที่สุด พระธาตุพนมพังถล่มลง
ด้วยเเรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไทย-ลาว ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ จนเเล้วเสร็จในปี 2522 งดงามสง่าเหมือนองค์เดิมทุกประการ
โดยมีการซักซ้อมขบวนเเห่พระอุรังคธาตุ
จากนั้น วันที่ 23 มีนาคม 2522 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ เสร็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีนี้ด้วย
เวลาล่วงเลยผ่านมา 49 ปี นับตั้งเเต่เหตุการณ์ "พระธาตุพนม" ถล่ม เเต่ความศรัทธาไม่เสื่อมคลาย เพราะนี่คือพระบรมธาตุถิ่นอีสาน ที่อยู่คู่ความเจริญทางพระพุทธศาสนา มาตั้งเเต่บรรพกาล เเละจักคงอยู่สืบไป
