ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีคดีวิสามัญฆาตกรรมเมื่อคืนนี้ ที่ญาติค่อนข้างติดใจสงสัย ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แล้วทำไมไม่ยอมให้ดู หรือ ถ่ายภาพศพ
นับคร่าว ๆ น่าจะประมาณ 16 นัด เป็นเสียงปืนที่มีการเปิดฉากยิงต่อสู้กัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ประมาณ 01.30 น. ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้าม ร้านอาหารใต้อาคารสีลม ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพฯ พบศพ นายมงคล อายุ 46 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ใต้ราวนมซ้าย กลางลำตัว ใต้สะดือ และด้านหลัง รวม 6 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก ภายในบรรจุกระสุน 5 นัด และอยู่ในรังเพลิงอีก 1 นัด
ใกล้กันพบจักรยานยนต์ผู้ตายจอดลักษณะเปิดเบาะท้ายรถ รอบที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน และหัวกระสุน กว่า 10 จุด ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นสายตรวจนอกเครื่องแบบ สน.บางรัก 2 นาย ยืนรอมอบตัว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พนักงานร้านอาหาร โทรไปแจ้งว่า มีชายเมาสุรามาอาละวาดหน้าร้าน จึงเข้าไปขอตรวจค้นอาวุธ และสิ่งของผิดกฎหมายใต้เบาะรถ ดูไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอขอตรวจค้นตัว ผู้ตายกลับชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ไม่ยั้ง ตำรวจต้องหลบและยิงตอบโต้ พอสิ้นเสียงปืนพบ นายมงคล ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ด้าน นายสุขสม พี่ชายผู้ตาย บอกว่าที่น้องเครียดอาละวาดเป็นเพราะเพิ่งออกจากงานมา 3 เดือน แล้วมาจับได้ว่าแฟนสาว ที่คบกัน 7 ปี มาติดสาวทอมที่ร้านอาหาร ส่วนการวิสามัญฯ อยากถามตำรวจทำเกินเหตุหรือไม่ แถมหลังเกิดเหตุไม่ให้เข้าไปดูศพน้องชายอีก
หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน, เจ้าหน้าที่ พฐ. และอัยการ นำตำรวจที่ก่อเหตุ 2 นาย ไปตรวจคราบเขม่าดินปืน และลายนิ้วมือบนอาวุธปืน ที่ สน.บางรัก และพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อเปรียบเทียบคำให้การต่อไป ส่วนประวัติผู้ตาย พบเคยถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่สุดท้ายศาลยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
คุณพิธพงษ์ ผู้สื่อข่าว สอบถามข้อเท็จจริงจากทางตำรวจ เบื้องต้นชี้แจงมาหลายประเด็น ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางถนน ไม่ใช่ในบ้าน ตำรวจไม่ได้ปิดข่าว และได้ให้ญาติเข้าไปดูศพได้ เพียงแต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ เพราะจะรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ยืนยันคดีนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ตำรวจจำเป็นต้องป้องกันตัว เพราะผู้เสียชีวิต ใช้ปืนยิงกระชั้นชิด ซึ่งตำรวจมีพยานหลักฐาน และภาพวงจรปิด สามารถชี้แจงได้
