ลบแอปฯ ทางรัฐ ทางใคร ทางมัน

View icon 115
วันที่ 16 ส.ค. 2567 | 07.18 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - หลายกระแสข่าวลือเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ไปต่อ โหมโรงโลกออนไลน์ต่อเนื่อง ทำคนลงทะเบียนแล้ว ใจคอไม่ดี บางคนถึงขั้นลบแอปฯ ไปแล้ว เพราะหมดหวัง

ความไม่แน่นอนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีข่าวลือสะพัดโลกออนไลน์ไม่หยุด ชาวเน็ตพากันโพสต์ข้อความ จบแล้วดิจิทัลวอลเล็ต, ทางใครทางมัน ไม่ใช่ทางรัฐ, นำแอปพิเคชัน "ทางรัฐ" ออกจากมือถือ บางคนบอกต้องลบออกแล้วไม่มีประโยชน์ เงิน 10,000 บาทไม่ได้แน่ และกลัวข้อมูลจะหลุดไปภายนอก

เรื่องนี้ร้อนถึง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รีบออกมาบอกว่า ไม่ต้องลบออกจากมือถือ เพราะแอปฯ ทางรัฐ เป็นช่องทางหลักให้บริการประชาชน ไม่ใช่แอปฯ สำหรับ "ดิจิทัลวอลเล็ต" เท่านั้น ไม่ว่าโครงการจะเดินต่อหรือไม่ แอปฯ ก็มีประโยชน์ ช่วยประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐหลากหลาย

ทีมข่าว 7HD ลงพื้นที่สอบถามประชาชน ถึงความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งยังคงมีความหวัง เชื่อว่าดิจิทัลวอลเล็ต อาจได้ไปต่อ

ขณะที่มีกระแสข่าวสะพัดว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้จะเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจยังไม่ดี ขอยุติไปก่อน

ยิ่งทำให้กระแสข่าวนี้กระพือ ไม่หยุด เพราะช่วงหนึ่งระหว่างการแถลงพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อเย็นวานนี้ นักข่าวได้ถามอุ๊งอิ๊ง ถึงกระแสข่าวล้มดิจิทัลวอตเล็ต เจ้าตัวก็เลี่ยงตอบสั้น ๆ ว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นต่อไป ช่วงนี้นักข่าวก็พยายามจะต่อ แต่อุ๊งอุ๊ง บอกว่า "เดี๋ยวเรามาดูดีเทลในเรื่องนี้อีกที"

ด้าน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายทักษิณ สั่งเบรกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า จะถอยได้ไหม ถอยได้เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่ผ่านทั้ง 2 สภาฯ ไม่ได้เขียนว่าจะต้องนำไปใช้สำหรับ "โครงการดิจิทัลวอลเล็ต" แต่เขียนกว้างมาก "เป็นค่าใช้จ่ายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ"

ส่วนการลงทะเบียนนั้นรัฐบาลพยายามบอกว่าการลงทะเบียนคือการสัญญาแล้ว คิดว่าถ้าเป็นสัญญาจริง แล้วรัฐบาลไม่แจกก็อาจจะถูกฟ้องได้ในภายหลัง แต่เรายืนยันว่า จริง ๆ มันไม่นับว่าเป็นสัญญา แค่ลงทะเบียนจากทางฝ่ายเดียว ไม่นับเป็นสัญญาแน่ ๆ ทางเราดูจากสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ แล้ว ถ้าจะถอยก็ถอยได้ แต่จะถอยไหม

ข่าวออกมาน่าจะเป็นการโยนหินถามทางว่ากระแสจะเป็นอย่างไร และหากถอยโดยไม่ทำต่อ น่าจะถูกทัวร์ลง เพราะประชาชนลงทะเบียนไปแล้วกว่า 30 ล้านคน

สุดท้ายถ้าจะเดินหน้าต่อ อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการให้เป็นไปตามกฎหมาย ประเด็นสำคัญคือการใช้งบฯ ข้ามปี ที่อาจจะใช้ไม่ได้ ก็อาจจะต้องหาวิธีการที่จะจ่ายออกมาเป็นเงินสด หรือว่า อะไรก็ได้ก่อนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา