ห้องข่าวภาคเที่ยง - การที่ครอบครัวชินวัตรตัดสินใจส่งชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 จะเป็นการเดิมพันทางการเมืองที่คุ้มหรือไม่
สำหรับคุณอุ๊งอิ๊ง นอกจากเป็นบุตรคนสุดท้องของนายทักษิณกับคุณหญิงพจมานแล้ว เธอเสมือนตัวแทนทางการเมืองที่ได้ DNA นายทักษิณมาเต็ม ๆ จากคำบอกเล่าของเธอ ๆ คลุกคลีการเมืองมาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยพ่อทำพรรคไทยรักไทย และยังเกาะติดการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง
เราจะเห็นภาพคุณอุ๊งอิ๊งอยู่เคียงข้างพ่อมากกว่าพวกพี่ ๆ ตั้งแต่วันที่นายทักษิณกลับประเทศไทย และวันที่เธออาสาไปรับพ่อที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ได้รับการพักโทษ จนมาทำงานการเมืองเต็มตัว
เมื่อเป็นหัวหน้าครอบครัว และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมถึงช่วยงานรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเราจะเห็นการลงพื้นที่และออกงานอีเวนต์ต่าง ๆ กับนายทักษิณตลอด ซึ่งเป็นช่วงเวลาแต่งตัวเตรียมนั่งเก้าอี้นายกฯ หลังรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน บริหารงานครบ 4 ปี
แต่เมื่อนายเศรษฐาต้องตกเก้าอี้นายกฯ ก่อนเวลาอันควร เวลาเพาะบารมีและประสบการณ์การเมืองจึงไม่เต็มที่ตามแผน ต้องเร่งบ่มให้ทันใช้บนเก้าอี้เบอร์ 1 ตึกไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางเสือ สิงห์ กระทิง แรด ทางการเมือง
จึงมีคำถามว่าครอบครัวชินวัตรส่งมารับตำแหน่งใหญ่เบอร์นี้ เพราะอะไร หรือจำเป็นต้องเข็นหมากสำคัญขึ้นบนกระดานการเมือง สู้ศึกใหญ่ที่มีเดิมพันถึงอนาคตการเมืองหรือไม่
เพราะรู้อยู่ว่าจะมีแรงปะทะจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เสียงโจมตี ซ้ำยังเสี่ยงสูงที่แค่ผิดพลาดนิดเดียว อาจต้องพ้นจากตำแหน่ง หรือถึงขั้นถูกพิพากษาตัดสิทธิการเมือง หรือจำคุก ซ้ำรอยนายกฯ หลายคนที่มาจากสายธารเดียวกันนี้
หรือนี่เป็นหมากชุบชีวิตพรรคเพื่อไทยให้กลับมายิ่งใหญ่ มีชีวิตชีวา ผ่านภาพคนรุ่นใหม่ ยิ่งหากสามารถขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้เป็นที่น่าพอใจ โอกาสของเพื่อไทยก็ไม่ไกลเกินจริง