ตำรวจบ่อวิน ร่วมกับ ป.ป.ส. ภาค 2 และฝ่ายปกครอง จับยาบ้าเครือข่ายขุนเดชกว่า 4 แสนเม็ด รับจากเพื่อนชาวเมียนมา มาพักรอส่งลูกค้า พร้อมยึดทรัพย์เกือบ 10 ล้านบาท
วันนี้ (17 ส.ค.67) ที่สถานีตำรวจภูธรบ่อวิน ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.บ่อวิน, พ.ต.ท.สมคิด ยานะพันธ์ รอง ผกก.สืบสวน และชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 2 ร่วมแถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดนายขุนเดช พร้อมยาบ้ากว่า 4 แสนเม็ด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนหาข่าวและติดตามเฝ้าระวังเครือข่ายยาเสพติด กระทั่งวันที่ 15 ส.ค.67 เวลาประมาณ 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี จับกุมนายมานะ พร้อมยาบ้ารวมจำนวน 400,000 เม็ด และรถกระบะสีดำ 1 คันใช้ขนยาบ้า ต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ่อวิน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 2 ขยายผลเครือข่ายยาเสพติดนายมานะ จึงสืบสวนทราบว่า นายมานะ มีแฟนใหม่ชื่อ น.ส.สุภาวรรณ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นห้องพักของ น.ส.สุภาวรรณ พบยาบ้า 2,808 เม็ด จึงจับกุมตัว น.ส.สุภาวรรณ
จากนั้นได้ขยายผลจับกุมนายขุนเดช หรือนายสมเดช ตามคำให้การของนายมานะที่ยอมรับว่า ได้รับการจ้างวานจากนายขุนเดช ให้ไปรับยาบ้าจำนวนดังกล่าวที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยได้ค่าจ้าง 35,000 บาท ซึ่งการจับกุมพบยาบ้าที่ตัวนายขุนเดช 200 เม็ด และเมื่อตรวจค้นที่บ้านพักเจอยาบ้าอีก 200 เม็ด และที่ห้องเช่าอีก 411,879 เม็ด
จากการสอบถามนายสมเดช ให้การรับว่า ยาบ้าดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 2 ตรวจพบทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยได้รับการติดต่อจากนายเต่า ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง สัญชาติเมียนมา ซึ่งรู้จักกันในช่วงที่ติดคุก โดยนายเต่าได้ติดต่อจะนำยาบ้ามาให้กับนายสมเดช 440,000 เม็ด นายสมเดชจึงว่าจ้างนายมานะให้ไปรับยาเสพติดมาให้ เมื่อได้ยาบ้ามาแล้วจะนำมาเก็บไว้ที่ห้องเช่าและบางส่วนจะนำไปพักไว้ที่บ้านพักในจังหวัดระยอง รอนายเต่าติดต่อลูกค้าและนัดสถานที่ เพื่อนำยาบ้าไปวางตามจุดที่นัดหมาย โดยจะได้ค่าจ้างประมาณ 160,000 บาท และยาบ้าอีก 10,000 เม็ด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน ,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น” และได้ร่วมกันตรวจยึดทรัพย์สินของนายสมเดช ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 จำนวน 16 รายการ เป็นเงิน 9,811,000 บาท รวมมูลค่ายาบ้าและทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึด มูลรวมประมาณ 30 ล้านบาท หลังจากนั้น จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางยาบ้า ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป