หนุ่มเรียนจบ ปวส. ได้วุฒิปลอมเข้าพบอัยการคุ้มครองสิทธิฯ หลังแจ้งความไม่ได้ ตร.อ้างองค์ประกอบไม่ครบ เผย ยังไม่มีใครเยียวยารับผิดชอบ ซ้ำยังถูกขู่ฟ้อง วอน ศธ.ช่วยตรวจสอบ
ความคืบหน้ากรณีหนุ่มเรียนจบ ปวส. นำวุฒิการศึกษาไปสอบบรรจุได้ แต่ไม่มีชื่อเป็นผู้จบการศึกษาในสารบบของกระทรวงศึกษาฯ เมื่อตามไปถามกับผู้บริหารวิทยาลัย ก็ได้รับคำยืนยันเป็น “วุฒิการศึกษาปลอม” เพราะไม่มีการเปิดศูนย์สอนที่รังสิต ล่าสุด วันนี้ (20 ส.ค.67) นายปิยะ อินอ้าย ที่ปรึกษากฏหมาย พานายสายชล อายุ 34 ปี เดินทางเข้าพบอัยการ เพื่อขอคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมาย ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดขอนแก่น
โดย นายปิยะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากที่พานายสายชลเข้าพบผู้บริหารวิทยาลัยที่ขอนแก่น ซึ่งผู้บริหารได้ตรวจสอบเอกสารและวุฒิการศึกษาของนายสายชลแล้ว ยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด และแนะนำให้เอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นได้พานายสายชลเข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.หนองเรือ ซึ่งทาง สภ.หนองเรือไม่สามารถดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในทางคดีได้ เนื่องจากไม่ใช่สถานที่เกิดเหตุ จึงแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานศึกษาที่นายสายชลเคยเรียน นายสายชลจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า องค์ประกอบยังไม่ครบ ต้องหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้ จึงยังไม่ได้แจ้งความ
นายปิยะ กล่าวอีกว่า วันนี้พานายสายชลมาที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย เพราะก่อนหน้าที่ได้เข้าพบอัยการคุ้มครองสิทธิฯ แล้ว แต่นายสายชลและผู้รับใบอนุญาตของวิทยาลัย ยังไม่ได้พูดคุยกัน อัยการจึงนัดทั้งสองฝ่ายมาพบกันอีกครั้ง ขอยืนยันว่าพบพูดคุยได้ แต่นายสายชลเป็นผู้เสียหาย นายสายชลจะต้องได้รับการคุ้มครอง และการเยียวยา โดยทีมกฏหมายและทนายความ รวมถึงทุกคนที่ยื่นมือมาช่วยเหลือนายสายชล เห็นตรงกันใน 2 ส่วน คือ นายสายชลจะต้องได้รับการคุ้มครองและเยียวยา ต้องได้ทำงาน ส่วนที่สอง นายสายชลจะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมด ทุก ๆ คนต้องรับผิดชอบ เพราะนายสายชลเสียสิทธิทุกอย่าง
ขณะนี้มีบุคคลที่อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาของวิทยาลัย โทรมาหาตนบอกว่า จะดูแลให้นายสายชลจบปริญญาโท และอยากได้เงินเท่าไหร่บอกมา รวมถึงมีคนโทรข่มขู่นายสายชล ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มีการเอ่ยชื่อวิทยาลัยเสียหาย จะฟ้องสายชล ต่าง ๆ นานา จึงฝากถึงบุคคลเหล่านี้ว่า ไม่ต้องโทร ไม่ต้องขู่ ทุกอย่างไปว่ากันในชั้นศาล
ด้าน นายสายชล ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังสื่อมวลชน นำเสนอข่าวออกไป มีคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว โทรมาข่มขู่จะฟ้องร้องต่าง ๆ นานา จนไม่รับสายแล้ว และให้ที่ปรึกษากฎหมายคุยแทน ส่วนกำลังใจนั้น มีเพื่อน ๆ และพี่ ๆ หลายคนติดต่อมาให้กำลังใจ ขอยืนยันว่าจะขอสู้ให้ความจริงมันกระจ่าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากการกระทำของคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า ครู อาจารย์นั้น มันทำให้เสียอนาคต เสียงาน ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และยังมาข่มขู่อีก อยากให้กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย เพราะถ้าปล่อยผ่าน เชื่อว่าจะเกิดขึ้นซ้ำอีก หรืออาจจะเกิดขึ้นมาแล้วหลายราย และต้องมีประชาชน มีหลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากวุฒิการศึกษาปลอม เมื่อเกิดขึ้นแล้วได้รับผลกระทบแบบที่ตนได้รับแล้ว ไม่มีใครมาเยียวยาตนเลย ไม่มีใครมาแสดงตัวรับผิดชอบเลย เมื่อไม่มีใครเยียวยารับผิดชอบ ก็จะมอบอำนาจให้ทีมกฏหมายและทนายความ ดำเนินคดีกับทุกคนตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป