กันจอมพลัง พาครอบครัวจ่าพันซ์ เหยื่อ กต.ตก.ปืนโหด ยิงดับที่ผับ บุกกองทัพบก วอนเปลี่ยนตำรวจดูแลคดี หลังครอบครัวไม่สบายใจ
วันนี้ (21 ส.ค. 67) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง พาครอบครัวผู้เสียชีวิตไปร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือที่กองบัญชาการกองทัพบก เขตพระนคร หลัง จ.ส.อ.โรจชนะภณ หรือจ่าพันซ์ อายุ 31 ปี ถูกผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ด้านหลังเสียชีวิตในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นถึงที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน และได้วางหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่า 500,000 บาท เพื่อประกันตัวออกไปแล้ว ทำให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายพงษ์ อายุ 62 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังเสียลูกชายไป ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดระแวงและห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวอยู่ กลัวว่าจะมีผู้ไม่หวังดี หรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มาแอบลอบทำร้าย ยอมรับว่าตอนที่เห็นร่องรอยกระสุนตามร่างไร้วิญญาณของลูกชาย ยิ่งรู้สึกสะเทือนใจ จนแทบพูดไม่ออก จึงไม่อยากให้ผู้ก่อเหตุลอยนวล หลุดพ้นความผิดครั้งนี้ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามคดีอย่างถึงที่สุด
ส่วนที่ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวออกไปนั้น เชื่อเป็นเพราะมีบารมีมากมายถึงทำได้ขนาดนี้ แต่เรื่องของชั้นศาลครอบครัวคงไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไรได้
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังพาครอบครัวผู้เสียเสียชีวิตไปพูดคุยกับตัวแทนจากกองทัพบก ได้ให้ความเชื่อมั่น และมั่นใจเลยว่าทางกองทัพบกจะไม่มีทางทิ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะยศใหญ่หรือยศชั้นผู้น้อย จะไม่มีคำว่าทอดทิ้ง และจะช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่
เบื้องต้นได้ประสาน พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ให้ช่วยเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับทำคดีนี้ เพราะทางครอบครัวรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ กลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการรู้เห็นกับผู้ก่อเหตุ หลังทราบว่าคืนที่เกิดเรื่องมีผู้ไม่หวังดี พยายามไปถอดกล้องวงจรปิดออกเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งตนเกรงว่าจะเป็นการปกปิดเพื่อช่วยเหลือใคร หรือมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รู้เห็นอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วยหรือไม่ อีกทั้งยังได้ประสานไปยัง พล.อ.ธนภัทร ณิยกูล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ช่วยส่งเจ้าหน้าที่ติดตามเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว ซึ่งวันนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่กัน จอมพลังได้จับมือร่วมกับกองทัพบก ในการช่วยคลี่คลายคดี และเชื่อว่าความช่วยเหลือครั้งนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
ด้าน พล.ท. อานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก/โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบได้เข้าพูดคุยให้กำลังใจครอบครัว พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจัดการพิธีศพ และมอบเงินช่วยเหลือขั้นต้นจำนวน 5๐,๐๐๐ บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวกำลังพล ขณะเดียวกันได้มอบให้นายทหารพระธรรมนูญของหน่วย เข้าประสานและติดตามกระบวนการสอบสวนร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความเป็นความธรรมกับผู้ได้รับผลกระทบ และดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกที่ได้ให้ความสำคัญในการดูแลกำลังพลของกองทัพบกที่เสียชีวิต ให้ได้รับสิทธิและความช่วยเหลือต่าง ๆ โดยเร็ว
