เช้านี้ที่หมอชิต - ผลจากการขยายผลจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวเกาหลีใต้ ที่ลองดีมาตั้งฐานปฏิบัติการใจกลางกรุงเทพฯ ตำรวจไปค้นเจอข้อมูลรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของชาวเกาหลีใต้นับแสนคนในเครื่องคอมพิวเตอร์ เชื่อว่าเตรียมไว้สำหรับหลอกลวงผู้เสียหาย
เมื่อวานนี้เราได้เห็นภาพที่ตำรวจสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยึดของกลางคอมพิวเตอร์ 20 เครื่อง และอุปกรณ์อีกหลายรายการ หลังเข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดมิเนียมหรู ซอยเอกมัย 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ กันไปแล้ว
เราไปดูภาพตอนที่ตำรวจจับกุมกันหน่อย ก่อนจะเข้าห้องจริง ๆ จะมีป้ายติดไว้ว่า "CONTENT FACTORY. KOREA&THAI" ซึ่งคาดว่าจะเอาไว้เพื่อตบตาใครเดินผ่านไปผ่านมา จะได้เข้าใจว่าเป็นห้องที่ไว้ทำงานสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ
แต่ที่มีคนแจ้งเบาะแสอยากให้ไปตรวจสอบ ก็เพราะเห็นชาวเกาหลีใต้เข้าออกห้องนี้มากผิดปกติ แล้วไม่ค่อยออกมา ไม่สุงสิงกับใคร และพอเข้าไปในห้อง จะเห็นว่าถูกกั้นแยกไว้เป็น 2 ห้องย่อย ห้องหนึ่งใช้ในการพูดคุยเจรจา อีกห้องใช้เปิดคอมพิวเตอร์ควบคุมดูแลเว็บไซต์ปลอม เว็บฯ "ธนาคาร" ที่ให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อหลอกให้คนในประเทศเข้ามาทำธุรกรรม รวมถึงนำเงินมาลงทุน
สอบปากคำทั้ง 8 คน ยอมรับว่า ถูกจ้างให้มาชักชวนคนใช้บริการผ่านเว็บฯ ดังกล่าว โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นต์ หากลูกค้ามาลงทุน และจากการตรวจสอบพบว่า 1 ใน 8 คน มีผู้ต้องหาหลบหนีหมายศาลของเกาหลีใต้ ส่วนการตรวจสอบหลักฐานในเครื่องคอมพิวเตอร์ยังเจอชื่อ และเบอร์โทรคนใช้บริการรวม ๆ แล้วนับแสนคน คาดว่าเตรียมไว้สำหรับหลอกผู้เสียหายในอนาคต
สำหรับสถานที่แห่งนี้ พบว่าผู้ต้องหาเพิ่งทำสัญญาเช่าไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีนายจุงฮุน อายุ 26 ปี เป็นหัวหน้าขบวนการ คนอื่น ๆ ทยอยเข้ามาในไทย ด้วยวีซานักท่องเที่ยว มาพักอยู่ใกล้ ๆ ทุกวันจะมีรถตู้รับ-ส่ง เพื่อให้มาทำงาน ตำรวจเชื่อว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่านี้ เพราะมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง และผู้ต้องหาอาจตั้งฐานปฏิบัติการในประเทศอื่น ๆ ด้วย เพราะผู้ต้องหามีประวัติเดินทางไปมาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรื่องนี้จะมีการประสานกับประเทศต่าง ๆ เพื่อขยายผลดำเนินคดีต่อไป
